เช้าวันนี้เราออกเดินทางจากโรมเมืองหลวงของอิตาลี มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังเมือง ปิซ่า เมืองชายฝั่งทะเลซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของประเทศ
เราจะเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ระหว่างทางก็มีแวะร้าน Autogrill เป็นร้านบนถนนไฮเวย์
มีทั้งร้านข้าว ของกิน ของฝาก จุกจิก จะว่าไปก็เหมือนร้านของฝากใหญ่ๆบนถนนต่างจังหวัดบ้านเรานั่นหละครับ
พวกชอคโกแลต ขนม ไวน์ ราคาก็จะถูก สามารถซื้อติดมือมาฝากคน หรือซื้อกินเองก็ดีครับ

จากโรมมาปิซ่า ระยะทางปรมาณ 360 กิโลเมตร เราเดินทางด้วยรถทัวร์ นั่งค่อนข้างสบายครับ

ระหว่างทางก็เป็นทุ่งหญ้าบ้าง เนินเขาเล็กๆบ้าง
พอมาถึงเมืองปิซ่าก็ได้เวลาข้าวเที่ยงก็ไปกินอาหารจีนอย่างเคย ซึ่งร้านวันนี้ห่วยมาก ไม่ขอลงรูปละกัน รสชาติไม่ได้ความเลย กินเสร็จก็นั่งรถ ไปใกล้ๆตัวหอเอน แต่รถทัวร์ใหญ่เข้าไม่ได้ ต้องจอดแล้วขึ้นรถเมลต่อเข้าไปบริเวณหอเอน
ก่อนเรามาก็คิดว่า หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) นี่ตั้งอยู่โดดๆอันเดียว คือถ้าเห็นตามรูปถ่ายก็ชวนให้คิดอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วมันอยู่ในกำแพง ซึ่งในนั้นมี 4 อาคารอยู่ในบริเวณเดียวกัน (Piazza del Miracoli) ก็คือ
1. Battistero – หอศีลจุ่ม
2. Pisa Cathedral – โบสถ์
3. Leaning Tower of Pisa – หอเอน (หอระฆัง)
4. Campo Santo – สุสาน

รูปบริเวณ Piazza Del Duomo จากมุมสูง (รูปจาก Google)

ทั้งสามอาคาร หน้าสุดคือหอศีลจุ่ม โบสถ์ และ หอเอน

หอศีลจุ่ม ไว้ประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ ชั้นล่างเป็นศิลปะโรมาเนสก์ (Romanesque) ส่วนด้านบนเป็นแบบกอธิค (Gothic)

เริ่มสร้างปี 1153 เสร็จปี 1363 (สร้างกัน 200กว่าปีเลยเหรอ o_O)

หลังตรงกลางเป็นโบสถ์ เป็นอาคารแรกที่สร้างขึ้น

เริ่มก่อสร้างในปี 1064

เคยโดนไฟไหม้ในช่วงปี 1595

ด้านหน้าของโบสถ์

เราเข้าไปเดินดู รอรอบขึ้นหอเอน

ภายใน

เพดานสวยงามมากๆ

นักท่องเที่ยวเยอะทั้งข้างในและข้างนอก

เพดานจากอีกมุม

ตัวเสาคาดว่าเอามาจากมัสยิดของเมืองปาแลร์โม่

โถงกลางโบสถ์

Duomo di Pisa

Duomo di Pisa

เพดานรูปที่ 3 หะหะ

ม้านั่ง

นักท่องเที่ยว

เดินเข้าไปด้านใน

รูปพระเยซู

เป็นงาน mosaic

Duomo di Pisa

Duomo di Pisa

ธรรมาสน์ สำหรับเทศน์ รอดจากการโดนไฟไหม้เช่นกัน สร้างปี 1302-1310

งานแกะละเอียดมาก

โคมไฟ เชื่อว่ากาลิเลโอมาคิดทฤษฎีจากที่นี่ด้วย (แต่โตมไฟดั้งเดิมโดนเอาไปเก็บแล้ว)

มีหีบศพ

ไม่รู้ว่าเป็นศพใคร

เทียนไฟฟ้าบูชาพระเจ้า

ออกมาดูหอเอน

หอเอนปิซ่าสร้างขึ้นในปี 1173 เสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี

ตัวหอเอน 3.97 องศา แต่ก็ดูเอียงมากๆ

เป็นหินอ่อนสีขาว ทั้งหมด 8 ชั้น สูง 55.86 เมตร

โดยที่นี่กาลิเลโอได้มาทดลองปล่อยลูกบอล 2 ลูกขนาดไม่เท่ากันลงพื้น เพื่อทดสอบแรงโน้มถ่วงของโลก

ถ่ายใกล้ๆมุมเสยกสวยไปอีกแบบ

ในหนังหนีตามกาลิเลโอ น้องต่ายก็มาปล่อยลูกบอลที่นี่เหมือนกัน 😀

ดูจากบางมุมจะเห็นว่าเอียงมาก

เราสามารถขึ้นไปด้านบนได้ แต่ต้องไปซื้อตั๋วและรอรอบ เค้าจำกัดจำนวนคนขึ้นต่อรอบ

ถ่ายจากชั้นกลางๆของหอ

คนเริ่มตัวจิ๋ว

จังหวะขึ้นนี่ก็เหนื่อยเหมือนกัน

ขึ้นมาถึงด้านบนหน้าเราก็ประมาณนี้เลย

คนตัวเล็กมาก จังหวะที่ไปยืน ฝั่งที่มันเอียง รู้สึก เสียวเหมือนจะตกจริงๆ มันลาดมาก

มองโบสถ์จากมุมด้านบน

มีระฆังอยู่ด้วย

ขึ้นมาสูงเหมือนกันครับ

ตอนเดินลงนี่เล่นเอาหมดแรงเลย
เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจพิชิตหอเอนเมืองปิซ่า ลืมเล่าไปว่า ถ้าจะขึ้นหอเอนเนี่ยต้องไปซื้อตั๋วเพิ่มราคาประมาณ 16 ยูโร หรืออะไรประมาณนี้แหละ โดยตั๋วจะต้องไปซื้อที่ตึกด้านซ้ายของหอเอน พอซื้อก็จะมีเวลาระบุรอบที่ขึ้น ซึ่งเราต้องมาตรงเวลาเป๊ะ เพราะเค้าจำกัดจำนวนคนต่อรอบ โดยต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ เค้าให้เอากล้องขึ้นไปได้อย่างเดียว กระเป๋ากล้องกระเป๋าสะพายห้ามเอาขึ้น ทำให้ตอนเราไป วิ่งกันแทบไม่ทันเวลา
โดยตั๋วนั้นสามารถใช้เข้าโบสถ์ได้ด้วย สรุปว่า ดูภายนอกไม่เสียเงิน ถ้าจะเข้าภายในต้องจ่ายเพิ่ม
พอเสร็จจากที่นี่เราก็นั่งรถต่อไปยังเมือง ฟลอเรนซ์ ประมาณ 90 กิโลเมตร แวะกินข้าวที่ร้าน Da Carlo ก่อนไปเข้าโรงแรม

หน้าร้าน Da Carlo แน่นอนว่าเป้นร้านทัวร์ลงอย่างเคย

ซุป น่าจะเป็นซุปมิสโตรเน่ อร่อยดี

มีสปาเกตี้ซอสเนื้อ รสชาติพอได้

จานหลักเป็นสเต็ก ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่

มีพิซซ่าให้อีกด้วย ไม่อร่อย เน้นให้อิ่มๆไว้ก่อน

ปิดท้ายด้วยขนมหวาน