จาก Bern เราเดินทางต่อไปยัง Geneva โดยระหว่างทางมีไปผ่านเมือง Lausanne แว้บๆด้วย ซึ่งที่ Lausanne ผู้คนก็จะใช้ภาษาฝรั่งเศสในการพูดคุย อย่างที่เคยเขียนไปแล้วว่าเมืองไหนอยู่ใกล้ประเทศอะไร คนในเมืองก็จะพูดภาษาของประเทศใกล้ๆนั่นเอง
สถานที่ท่องเที่ยวที่คนรู้จักก็คือ สำนักงานใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิคสากล (International Olympic Committee) แล้วตัวเมืองก็จะติดกับทะเลสาบเจนีวา ซึ่งยาวจากเจนีวามาถึง Lausanne นี่ โดยสามารถถึงเรือจากท่าเรือ Ouchy ล่องข้ามทะเลสาบไปฝั่งฝรั่งเศสได้เลยเช่นกัน
ถ่ายรูป เดินเล่นกันซักพักก็เดินทางกันต่ออีกแป๊บนึง ราวชั่วโมงนิดๆก็มาถึงเมืองสำคัญอีกแห่งของ Switzerland เป็นเมืองใหญ่ที่หลายๆคนจะรู้จักนั่นก็คือเมือง Geneva เมืองที่ประชากรเยอะเป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรอง Zurich เมืองเดียว ที่ Geneva ผู้คนก็จะใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักเช่นเดียวกัน รถราก็จะเป็นทะเบียนฝรั่งเศสจะนวนไม่น้อย เพราะเป็นส่วนที่ติดกับฝรั่งเศสเลย คือจากใจกลางเมือง วิ่งไป 6-7 กิโลก็จะเป็นประเทศฝรั่งเศสแล้ว
ที่ Geneva นี้เราแวะถ่ายรูปที่ UN แล้วก็เดินเล่นบริเวณใกล้ๆโรงแรม ซึ่งก็อยู่ติดทะเลสาบ Geneva นั่นเอง
คืนนี้เราจะนอนที่นี่แล้วพรุ่งนี้เช้าก็จะนั่งรถไฟความเร็วสูงชื่อดัง TGV (เตเจเว) ไปยังเมืองหลวงของฝรั่งเศส “ปารีส”

จากหน้า UN เราเดินทางมาริมทะเลสาบ ดูน้ำพุ ซึ่งความสูงไม่ธรรมดา สูงถึง 390 ฟุต น้ำพุแห่งนี้มีชื่อว่า Jet d’Eau อ่านเป็นไทยตลกๆได้ว่า เจ็ทโด้ หะหะ

ใกล้ๆทะเลสาบมีรูปปั้น Helvetia และ Geneva แสดงถึงการเข้าร่วมเป็นประเทศ Switzerland ของเมือง Geneva ตั้งแต่ปี 1815

โดยรูปปั้น Helvetia เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของ Switzerland ฟอนต์ชื่อดัง Helvetica ก็มีต้นกำเนิดของชื่อจาก Helvetia นี่เอง
จากที่นี่เราก็ไปทานข้าวร้านอาหารจีน แล้วก็ไปเข้าพักโรงแรม Crowne Plaza หนึ่งคืน ตื่นเช้ามาก็ทานข้าวเช้าที่โรงแรมเป็นมื้อสุดท้าย ก่อนจะไปสถานี Gare de Genève-Cornavin เพื่อขึ้นรถไฟ TGV มุ่งสู่กรุงปารีส

ตั๋ว TGV จาก Geneva ไป Paris ลืมถ่ายบรรยากาศในรถมา แต่โดยรวมดูเก่า โทรมกว่า รถไฟญี่ปุ่นเยอะพอสมควร ดูทึมๆ ระหว่างทางเราไปแวะตู้เสบียงก็พอมีน้ำมีขนมปังรองท้องได้
จากนี้เราก็ไปทานข้าวกลางวันที่ร้านอาหารไทย แล้วก็ไป Cathédrale Notre-Dame de Paris หรือ มหาวิหาร Notre Dame นั่นเอง จบจาก Notre Dame ก็ไปขึ้นเรือล่องแม่น้ำ Seine ซึ่งจะขอยกไปตอนหน้าละกันครับ