เริ่มวันที่ 5 ของทริป เรายังอยู่ใน Napier, Hawke’s Bay โปรแกรมของเราวันนี้ก็เลยยังเป็นทัวร์โรงไวน์ต่อจากเมื่อวานที่ไป Church Road Winery มา โดยเราจะเที่ยวทั้งหมด 3 โรง แล้วก็เดินทางลงใต้ไปยังเมือง masterton เมืองเล็กๆระหว่างทางที่จะไป Wellington เมืองหลวงของ New Zealand
โรงแรกที่เราจะไปคือ Esk Valley Winery เป็นหนึ่งในโรงที่อยากมาตั้งแต่ตอนจัดโปรแกรมที่บ้าน เพราะอ่านมาว่าเป็นโรงที่ยังทำไวน์แบบทำมือ (Premium hand-crafted) ยังไม่เป็นแบบอุตสาหกรรมมาก แล้วโลโก้ก็สวยดีมีดีไซน์ดี (มันเกี่ยวกับรสชาติไหม ?) ที่มีอายุกว่า 80 ปี โดยวินเทจที่ออกจำหน่ายคือ 1933 ซึ่งผลิตโดย Robert Bird เจ้าของดั้งเดิม สำหรับเจ้าของปัจจุบันเข้าซื้อกิจการตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา
Esk Valley จะมี 2 แหล่งปลูก คือที่นี่ Hawke’s Bay กับ Marlborough ที่อยู่เกาะใต้ สำหรับตัวที่ดังของ Esk Valley ก็จะเป็น Pinot Noir จาก Marlborough และตัวเบลนด์ Merlot / Cabernet Sauvingon / Malbec ซึ่งเป็นตัวที่ได้รางวัลเหรียญทองทั้งคู่

Gimblett Gravels คือพื้นที่ ปลูกองุ่นที่มีชื่อเสียงของเกาะเหนือ มีขนาดประมาณ 8 ตารางกิโลเมตร มีดรงไวน์ประมาณ 20 กว่าดรง โดยปลูก Merlot, Syrah และ Cabernet Sauvignon มากที่สุด

ขวดนี้เป็น Winemakers Reserve ของตัวเบลนด์ ราคาสูงกว่าตัวเบลนด์ปกติประมาณ 2 เท่ากว่าๆ (59 กับ 23 NZD)

Verdelho เป็นพันธุ์ที่เราไม่เคยกิน ทานแล้วก็อร่อยดี สดชื่น ออกเปรี้ยวๆ พนักงานบอกว่าเข้ากันได้ดีกับอาหารเอเชีย อย่างอาหารไทย สุดท้ายเลยซื้อกลับมาด้วย 2 ขวด
ปิดท้ายกันด้วยภาพ panorama จากที่นี่เราก็เดินทางไปยังโนที่ 2 ของวันนี้ เพื่อทานอาหารกลางวันและชิมไวน์เช่นกัน ซึ่งจะขอเล่าในตอนต่อๆไปครับ