จากเมื่อสิ้นปีที่แล้วเราไปงาน Tokyo Maker Faire ที่ญี่ปุ่น คราวนี้เรามีโอกาสได้ไปงาน Maker ของไทยบ้างละครับ งานนี้มีชื่อว่า Chiang Mai Maker Party จัดที่ ชมรม เชียงใหม่ เมกเกอร์คลับ อยู่แถวสวนบวกหาด โดยผู้จัดก็คือ Chiang Mai Maker Club นั่นเองครับ
ตัวงานนั้นมีจัด 2 วัน คือเสาร์ที่ 28 และ อาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2558 เราติดหลายงานมากในวันเสาร์ไม่สะดวกไป ก็เลยต้องบินไปเช้าวันอาทิตย์แทนครับ ขึ้นเครื่องนกแอร์ที่ดอนเมือง เป็นไฟลท์ 7.00 แต่ฝนตกแบบฟ้ารั่ว เลยทำให้ดีเลย์ไป ราวๆ 40 นาที บินประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงเชียงใหม่ จากสนามบินเราโบกรถแดง บอกพี่โชเฟอร์ว่าไปสวนบวกหาด ถ้าดูแผนที่ก็จะอยู่ มุมซ้ายล่างของคูเมืองครับ 2 คน พี่เค้าคิดคนละ 50 บาท
พอมาถึงก่อนจะเข้างาน เราแวะทานข้าวมันไก่แถวๆ นั้น เสร็จก็เดินเข้าซอยมา แล้วก็ลงทะเบียน (ฟรี) ได้รับของที่ระลึกมาหนึ่งซอง ตอนแรกบูธยังไม่ครบ สายๆหน่อย ถึงจะเริ่มคึกคักครับ ในงานก็จะมีส่วนของบูธผู้สนับสนุน มีส่วนแสดงผลงานของทางชมรม เชียงใหม่ เมกเกอร์คลับ แล้วก็มี Maker ทั่วไป อีกโซนนึงจะเป็นโต๊ะเวิร์คชอป
ส่วนในอาคารจะเป็นที่ฟังการบรรยายจาก Speaker คนต่างๆครับ
Maker คืออะไร ?
maker ในที่นี่ก็คือนักประดิษฐ์ทุกคน ทั้งแบบจริงจังเป็นรูปแบบบริษัท สมัครเล่น DIY ขำๆ เด็กมหาลัย เด็กจิ๋วๆก็มี แต่ละคนก็จะมีสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ มาแสดงให้ดู รวมถึงขายด้วย บางงานก็เจ๋งมาก บางงานก็อาจจะดูเป็นโครงงานวิทยาศาสตร์ง่ายๆ รวมถึงก็จะมีบูทของผู้สนับสนุนเอาของต่างๆมาแสดงและจำหน่าย เช่นกัน เอาเป็นว่าใครชอบสร้าง ชอบประดิษฐ์ ก็จะมาแสดงของกันในงานครับ
**อันนี้ผม quote มาจาก blog ที่เขียนตอนไปงาน Tokyo Maker Faire นะครับ
เริ่มวันตอนเช้ามืดที่ดอนเมือง คนรอขึ้นเครื่องเยอะมากๆ หลายไฟลท์ หลายปลายทางครับ
ตัดภาพมาอย่างว่องไว 9 โมงกว่าๆ เรามาอยู่ที่ปากซอยทางเข้า Chiang Mai Maker Club ละครับ
หน้างานครับ ขวามือคือโต๊ะลงทะเบียน พวกบูธต่างๆจะอยู่ซ้ายมือ
คัตเอาท์อันใหญ่ในงานนี้ครับ
ลงทะเบียนเสร็จก็ได้ของที่ระลึกมา
เปิดออกมาเป็น แคบหมู ของโปรดเลย
โปสเตอร์งาน
Chiang Mai Maker Party ครั้งที่ 1
กำหนดการของงานทั้ง 2 วันครับ
Speaker
Speaker
Speaker
Speaker
วันเสาร์มีการแข่งหุ่นซูโม่
วันอาทิตย์เป็นการแข่งรถครับ
คัตเอาท์หน้างาน
สำรวจโต๊ะต่างๆ เริ่มที่ฝั่งขวาเป็นโต๊ะผลงานของทางชมรมครับ โดรนจิ๋วกับ ตัวเซ็นเซอร์อุณหภูมิ
ที่เป็นรางเลื่อนไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร อยู่ระหว่างการประดิษฐ์ครับ
โดรนตัวใหญ่ ฟังสมาชิกชมรมบอกว่าพยายามใช้ 3D Printer ผลิตชิ้นส่วนให้มากที่สุด
มันเคยดี = พังแล้ว หะหะ
อีกหนึ่งตัว
ตัวนี้ไม่แน่ใจว่าคืออะไร
เครื่องนี้จะเลี้ยงลูกเหล็กไมให้หล่นครับ สมาชิกชมรมบอกว่า ใช้ระบบทัชสกรีนของมือถือ ตัวที่เลี้ยงๆ เป็นมอเตอร์ 2 ตัว
อันนี้มันจะลอยอยู่ในอากาศตลอดเวลา (ดูในวิดิโอ)
พลอตเตอร์ขนาดเล็กๆ
โดรนติดดล้อง อันนี้เป็น ไม้บัลซ่าทำให้มีขนาดเบาก่วนตัว 3d printer ครับ
เครื่องบิน
รถตีนตะขาบบังคับ เดี๋ยวคันนี้จะลงแข่งในช่วงบ่ายด้วยครับ
ตรงกลางเป็นที่นั่งพัก
ติดกันก็จะเป็นส่วนของเวิร์คชอปต่อรถบังคับเพื่อแข่งในทางวิบาก
โดยจะเริ่มต่อตั้งแรก แผ่นเปล่าๆเลยครับ ในภาพนี่คือต่อไปใกล้เสร็จแล้ว
ผู้ที่มาต่อก็มีทั้งผู้ใหญ่
น้องๆมัธยมก็มาต่อ มีสมาชิกชมรมคอยช่วยเหลืออยู่ครับ
สองคนนี้กำลังขะมักเขม้นเลย
ตัวบังคับรถครับ
ลองมาดูโต๊ะของผู้สนับสนุนบ้างครับ โต๊ะนี้เป็นของ Ayarafun มีค้อนเล็กๆให้ทุบไปบนเซ็นเซอร์ วัดความแรงแล้วไปสดงเป็นไฟตามเส้นขาวๆครับ
ของ inex ก็เอาอุปกรณ์และหนังสือมา
เป็นวงจร และ ชุดคิทต่างๆ
มี 3D Printer
เลื่อย dremel ครับ
ติดกันเป็นโต๊ะของ Home of Maker – Maker Space ที่เจ้า อยู่ที่ It Mall ฟอร์จูนทาวน์ครับ
มีตัว Durio Sound มาโชว์ครับ
Durio Sound เป็น DAC ของ Raspberry Pi ที่จะทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้น
มีให้ลองบัดกรีเองด้วย
บูธนี้เป็นของร้าน PINN SHOP เอาเครื่องตัดกระดาษามาโชว์ครับ
เจ้าเครื่องนี้มีจะตัดวัสดุแบนๆ บางๆ อย่างเช่น หนังเทียม สติ๊กเกอร์ ผ้า และกระดาษได้
ตัวอย่างงานที่ตัดออกมาแบบเว้นขอบ
หรือเปลี่ยนหัวเป็นปากกาก็จะวาดลงบนผ้าก็ได้ครับ
เขียนลงไปบนผ้าแบบนี้
มีเครื่องปักมาโชว์
Maker Zoo – Maker Space อีกเจ้าในกรุงเทพ ก็เอาผลงานจาก 3D Printer มาโชว์ครับ
อันนี้ใช้ 3D Scanner สแกน แล้วปรินท์ออกมา เจ๋งดี
Thai Easy Elec เอาอุปกรณ์ต่างๆมาแสดง อย่างอันนี้เป็นตัวเซนเซอร์วัดความชื่น เอาไปต่อยอดเรื่องการเพาะปลูกครับ
บอร์ดต่างๆ
มีหุ่นยนต์ที่จะขยับตาม ใช้เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวครับ (ดูใน วิดิโอ)
จอแสดงข่าว
อันนี้เป็น 3D Printer แบบปากกา เป็นโต๊ะของชาวสิงคโปร์ ไม่แน่ใจว่าชื่อบริษัทอะไรครับ
โต๊ะของ Deaware เอาพวก XBMC มาประยุกต์
มีเรื่องพวกการปลูกพืช ปลูกผักด้วย
ชิ้นนี้เป็นการปลูกแบบไฮโดรโปนิค แล้วมีการมาประยุกต์ใช้กับพวกเซนเซอร์ต่างๆครับ
อีกฝั่ง น่าจะเป็นของกลุ่มอื่นๆที่ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนครับ เจ้านี้เป็นระบบ Smart Home
ผลงานจาก 3D Printer ที่คนไทยประกอบเอง เป็นโต๊ะของ Siam Rep Rap ครับ
โต๊ะนี้มาโชว์แผงโซล่าเซลล์ เป็นสถานีวัดระดับน้ำขนาดเล็กเพื่อใช้แจ้งเตือนภัยน้ำป่าครับ ตอนนี้ใช้งานจริงอยู่ที่เชียงราย
เจ้านี้โชว์บอร์ด Raspberry Pi
เอาไปประยุกต์ใช้งานในด้านการศึกษาของนักเรียนครับ
โต๊ะเป็นพวกโดรน และเครื่องบินบังคับต่างๆครับ
ถ้าคอแห้งก็มีซุ้มเครื่องดื่ม
หรือถ้าหิวก็มีลูกชิ้นปิ้งให้ทานเล่น
ลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ้มแซ่บถูกใจมากๆครับ
เข้าฟังบรรยายจาก Speaker บ้างครับ
เป็นหัวข้อ From Zero to Products โดยคุณ ภัทรพร โพธิ์สุวรรณ์ จาก Maker Zoo นั่นเองครับ
เสร็จแล้วเราแว้บเข้าไปดูห้องทำงานของชมรมบนชั้น 2 ครับ
เข้ามาแล้วได้อารมณ์แบบชมรมของมหาลัยมากๆ
ของประดิษฐ์ต่างๆเพียบ
แน่นอนว่าต้องมี 3d printer
มี CNC ขนาดกลางๆหนึ่งตัวครับ
ของเยอะดีไหมครับ หะหะ
ท่อดูดควัน
ลงมาข้างล่างเตรียมดูแข่งรถครับ
รถที่ประกอบกันไปเมื่อเช้าเตรียมแข่ง ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน
มีการทดลองสนาม
ทางวิบากพอสมควรครับ
ลุยหินเสร็จลุยทราย
คันนี้จะแข่งด้วยเหรอเนี่ย
รถที่จะเข้าแข่งทุกคัน ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม สมาชิกชมรมกำลังชั่งน้ำหนักก่อนแข่งอีกครั้งครับ
พร้อมที่จุดสตาร์กันแล้ว
เตรียมลุย
โอน้อยออก จัดลำดับกันใหม่ ใครจะได้อยู่หน้าก็ต้องตามดวงหละครับ
กองเชียร์
สุดท้ายคันนี้ชนะเลิศครับ เข้าที่ 1 ทั้งรอบคัดเลือกและรอบสุดท้าย
แจกรางวัลกัน
นักแข่งทั้งหมดในวันนี้
และสุดท้าย ทีมผู้จัดงานทุกคน หรือสมาชิกของชมรมนั่นเองครับ
แข่งเสร็จก็มีการแจกรางวัลอะไรต่างๆ ตามปกติครับ เสร็จแล้วก็มี Party โดยจะไปที่ Maker Space ซึ่งมีงานเปิดในเย็นวันนี้พอดีครับ
ก็เป็นอีกงานที่คุ้มค่าที่บินไปแต่เช้า (และบินกลับดึกๆตอนกลางคืน) ภาพรวมของงานค่อนข้างจะโอเคเลย คือคนอาจจะไม่ได้เยอะมากมาย แต่ก็มีหลายคนที่มาร่วมก็ดูสนอกสนใจดี ส่วนตัวรู้สึกดีที่มี Scene อะไรอย่างนี้เกิดขึ้นในบ้านเรา คือที่กรุงเทพ เราไม่แน่ใจว่าเคยมีงานประมาณอย่างงี้แล้วหรือยัง อาจจะมีแต่เราไม่ได้ไปร่วมก็เป็นได้ครับ ซึ่งก็ดูงานนี้มันไปกันได้ดีกับแคมเปญ เชียงใหม่ เมืองสร้างสรรค์ ก็อยากให้มีงานอย่างงี้อีกเรื่อยๆทั้งที่กรุงเทพและเมืองอื่นๆ ด้วยเช่นกันครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทีมงานผู้จัดทุกท่านที่ทำให้มงานดีๆแบบนี้, Speaker และผู้ร่วมงานทั้งหมดด้วยครับ ถ้าพบข้อมูลอะไรผิด ไม่ถูกต้อง แจ้งได้เลยนะครับ เพราะเขียนจากที่ได้ยิน และเข้าใจเองทั้งหมดครับ
