สำหรับวงการเบียร์ญี่ปุ่นนั้นจะมีเจ้าใหญ่ๆอยู่ 4 เจ้าคือ Asahi, Sapporo, Suntory และ Kirin ทริปเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมโรงงานของ Kirin 1 ใน 4 ของเบียร์เจ้าใหญ่ที่เมืองโยโกฮาม่าครับ
โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากสถานี Shinjuku ลงที่สถานี Namamugi แล้วเดินต่ออีกหน่อยก็จะถึง Kirin Beer Village ครับ มาถึงเราก็ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะมาทัวร์โรงงาน ในเว็บไซต์เขียนว่ามี 6 รอบต่อวัน (10.30,11.30,12.30,13.30,14.30,15.30) รอบที่ผมไปนั้นมีคุณลุงคุณป้าเยอะเลย ตามพวกโรงเบียร์ โรงงานอะไรที่มีทัวร์อย่างนี้ มักจะเจอคุณลุงคุณป้าเป็นประจำ เหมือนว่าแกก็มาเที่ยวพักผ่อน ทัวร์ตามสถานีที่ต่างๆ เป็นการผ่อนคลายครับ
พอถึงเวลาก็มีพนักงานสาวมาอธิบายคร่าวๆ ว่าทัวร์จะใช้เวลาประมาณ 70 นาที แล้วก็เล่าประวัติ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทางโรงงานจะมีแจกเป็นเอกสารอธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้ครับ ถึงเค้าจะอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นเราก็พอรู้เรื่องได้ เพราะก้มหน้าก้มตาอ่านคำอธิบายตาม เอกสารบรรยายค่อนข้างละเอียดเลยครับ
ประวัติโรงเบียร์ Kirin เมืองโยโกฮาม่า
เริ่มกันตั้งแต่ปี 1870 โดยมี William Copeland เป็นผู้ก่อตั้งโรงเบียร์ชื่อ Spring Valley Brewery พอปี 1885 Copeland ก็ขายให้กับกลุ่มทุนชาวญี่ปุ่น กลายเป็นโรงงานชื่อ Japan Brewery แล้วเริ่มจำหน่ายเบียร์ Kirin ในปี 1888 เป็นครั้งแรก จนปี 1907 ก็มีชื่อเป็นทางการว่า Kirin Brewery Company
เดิมทีโรงงานอยู่ที่ Yamate, Yokohama แต่เกิดแผ่นดินไหวในปี 1923 ทำให้โรงงานเสียหาย เลยต้องย้ายมาอยู่ที่ปัจจุบัน บริเวณ Namamugi นี่หละครับ
คอยสังเกตป้าย Beer Village เอาไว้ครับ
มาถึงละครับโรงงานเบียร์ Kirin
เจ้าหน้าที่มาต้อนรับและอธิบายคร่าวๆ
ผู้เยี่ยมชมต้องติดเข็มกลัด Beer Village เอาไว้ครับ
เสร็จก็พาขึ้นมาด้านบน เปิดวิดิโอให้ดูก่อนพาทัวร์
วิดิโอเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราสามารถอ่านจากเอกสารที่เจ้าหน้าที่แจกให้ได้ครับ
ภายในสามารถ่ายรูปได้แต่ห้ามถ่ายวิดิโอครับ ที่เห็นนี่คือหม้อต้ม ขนาดใหญ่เลย มีทั้งหมด 9 ถัง ถังใหญ่สุดกว้าง 12 เมตรครับ
ส่วนต่อมาเป็นการอธิบายวัตถุดิบ หลักๆในการทำเบียร์นั้นจะมี 4 อย่างคือ 1.มอลต์ 2.น้ำ 3.ฮอปส์ และ 4.ยีสต์ครับ รูปนี้คือมอลต์ของข้าววบาร์เลย์
ตัวนี้จะเป็นตัวที่ให้แป้งหลังจากต้ม แล้วยีสต์ก็จะกินน้ำตาลกลายเป็นแอลกอฮอล์ครับ ที่ Kirin ใช้มอลต์จากทั้งในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ ยุโรปและออสเตรเลีย อธิบายเสร็จก็ให้ลองชิมได้ด้วย กรอบๆ แนวธัญพืชครับ
อันนี้คือดอกฮอปส์ที่ทำให้เบียร์มีกลิ่นหอมและมีรสขม ซึ่งจะเป็นตัวฆ่าเชื้อโรคด้วยครับ มาจากเยอรมันนีและเชค
Kirin เค้าจะภูมิใจนำเสนออย่างนึงว่าเบียร์เค้าจะต้มเพื่อรีด wort แค่ครั้งเดียว ทำให้ต้องใช้มอลต์มากกว่าเบียร์ทั่วไปครับ
แผนภาพอธิบายขั้นตอนการต้มเบียร์
ถัง Ferment ที่ยีสต์จะกินน้ำตาลแล้วกลายเป็นแอลกอฮอล์ ก่อนจะนำไปบ่มในอุณหภูมิต่ำ
แบบจำลองของถังที่จะนำน้ำเบียร์มาหมักในอุณหภูมิต่ำๆ เอาไว้ 1-2 เดือน เพื่อให้ได้รส กลิ่น สีตามที่ต้องการ
มีให้ลองชิมน้ำ wort เปรียบเทียบแบบน้ำแรก กับน้ำสอง น้ำแรกเข้มข้นกว่าชัดเจนครับ ทำให้ Kirin เลยมีชื่อว่า Kirin Ichiban
Ichiban แปลว่า First มาจาก First Press นั่นเอง
ต้อมาก็เป็นการอธิบายไลน์การผลิตของ Kirin
มีขวดให้ดูว่าลดความหนาเพื่อประหยัดทรัพยากรของโลกครับ
แบบกระป๋อง
ชนิดของเบียร์ก็จะมี Lager
มี Stout เป็นเบียร์ดำ
ตัวนี้เป็นแบบ Alcohol Free ครับ
เครื่องดื่มชนิดอื่นๆของ Kirin
หน้าตาแพคเกจ
ธงสีสดสวยงาม
เสร็จแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยนั่นก็คือช่วงชิมเบียร์ครับ
เริ่มที่ตัวธรรมดา Lager ครับ
แก้วที่สองเป็นเบียร์ดำ
Kirin Stout นั่นเองครับ
ติดกันก็จะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่
ขนม เป็นคุกกี้เบียร์ครับ
ชีสและซาลามี่ไว้ทานแกล้มเบียร์
เสร็จจากการทัวร์ก็มีสองตัวเลือกคือกินร้านอาหารของ Kirin หรือ Spring Velly Brewery แน่นอนครับ ตัดสินใจไม่ยากว่าจะไปร้านไหน
สำหรับ Spring Velly Brewery นั้นทาง Kirin รีแบรนด์ก่อตั้งดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ เพื่อจับตลาดคราฟท์เบียร์ที่กำลังบูมทั่วโลก โดยมีที่ Daikanyama ในโตเกียวและที่นี่ในบริเวณโรงงานของ Kirin เอง ส่วนตัวค่อนข้างชอบชื่อ Spring Velly Brewery มันให้ความรู้สึกคราฟท์เบียร์ดีเหมือนกัน
กลับออกมาด้านหน้า เพื่อจะทานข้าวกลางวันครับ มาที่ตึกนี้ SVB
SVB หรือ Spring Valler Brewery คุ้นๆไหมครับ มันคือโรงานแรกที่ William Copeland เปิดนั่นเอง Kirin เอามารีแบรนด์ใหม่ทำเป็นคราฟท์เบียร์และร้านอาหารครับ
โปสเตอร์โฆษณา SVB
เข้ามาซ้ายมือก็จะเจอบริเวณบาร์ครับ
หัวแทปเบียร์สดครับ
บรรยากาศร้านดูดีเลยครับ เป็นโถงโปร่งสูง
บรรยากาศอีกมุม
ตกแต่งดูทันสมัยดีครับ
บริเวณด้านใน มีหม้อต้มและกำแพงอิฐ ได้อารมณ์มากครับ
กลางวันจะเป็นเมนู Lunch Set ครับ มีไม่ค่อยเยอะ ตอนเย็นถึงจะเป็น Full Menu
เมนูเครื่องดื่ม
ที่รองแก้วเท่เลย
มีเบียร์ทั้งหมด 6 ตัวครับ
Afterdark เป็น Porter กลิ่นหอมคั่วๆ ดีครับ เนื้อเบียร์กลางๆไม่เบาไม่หนา
ตัวนี้ “496” เป็น Lager เฉยๆ ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
สลัดมะเขือเทศอโวคาโด อร่อยครับ อโวคาโดครีมมัน หัวหอมซอยก็หวาน มีรสเค็มเปรี้ยว มะเขือเทศหวานเจี๊ยบ น้ำลายสูบฉีดจริงๆจานนี้
ซุป ผมไม่ได้ชิมครับชามนี้
มีทโลฟ นุ่มเนียน ออกหวานซอสนิดๆ ตัวซอสเป็นกลิ่นเห็ดผสมเครื่องเทศครับ
Open Sandwich ขนมปังเป็นธัญพืช อารมณ์เหมือน multigrain หรือขนมปังไรย์ รสออกหวานเปรี้ยวจากตัวน้ำราดสลัดครับ ผักใหม่สด แซลมอนกลกล่อมไม่เค็มมาก
ไก่ย่าง เนื้อนุ่มหนังกรอบดี ซอสเค็มอร่อย เค้าย่างมาเกรียมได้พอเหมาะพอเจาะเลยครับ
รายการเบียร์
คำอธิบายเบียร์แบบต่างๆ เสียดายเป็นญี่ปุ่นหมด
เป็นอีกหนึ่งทัวร์ที่ประทับใจครับ ได้ความรู้ ได้ชิมเบียร์ที่โรงงาน แล้วก็ยังโชคดีได้รู้จักและชิมเบียร์ Spring Valley ด้วย ถ้ามีเวลาแนะนำว่ามาช่วงบ่ายๆ ทัวร์ให้เสร็จเกือบๆ เย็นแล้วทานข้าวที่ร้าน SVB จะได้ทานแบบ Full Menu ครับ
ฝากไว้อีก 1 สถานที่ท้องเที่ยวที่น่าสนใจของ Yokohama หวังว่าจะถูกใจคอเบียร์ครับ
Kirin Yokohama
เบอร์โทร : 045-503-8250
เปิด : 10.00-17.00
เว็บไซต์
เพจ
foursquare
Spring Valley Brewery Yokohama
เบอร์โทร : 045-506-3017
เปิด : 11.00-22.00
เว็บไซต์
เพจ
foursquare
tabelog
เมนูอาหารเย็น
เมนูอาหารเย็น
เมนูอาหารเย็น
เมนูอาหารเย็น
เมนูอาหารเย็น
เมนูอาหารเย็น