เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สิงคโปร์มีงานเบียร์งานใหญ่ครับ ชื่อ Craft Singapore 2016 คิดว่าน่าจะจัดเป็นครั้งแรก โดยจัดขึ้นบริเวณ Marina Bay Waterfront ใกล้ๆ กับตึก Marina Bay Sands งานมี 3 วันครับ 4-5-6 มีนาคม ค่าเข้างานโหดเหมือนกันคือ 95 SGD หรือประมาณเกือบๆ 2,500 บาท แต่ก็จะได้ voucher ไว้ซื้อเบียร์และอาหารกลับมา 50 SGD ครับ (โหดอยู่ดี)
ภายในงานก็จะมีคราฟท์เบียร์เจ้าต่างๆ มาขายทั้งแบรนด์จากฝั่งยุโรปและอเมริกา และแบรนด์เล็กๆ จากเอเชียอีกหลายเจ้าเลยหละครับ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเบียร์ลำซิ่งและ Stonehead ซึ่งนับว่าเป็นตัวแทนคราฟท์ไทย ไปออกบูธในงานและร่วมประกวดเบียร์ด้วย น่าเสียดายที่พลาดรางวัลไป แต่ก็ถือว่าเป็นนก้าวแรกของคราฟท์ไทยในเวทีระดับสากลครับ
นอกจากเบียร์แล้วก็มีร้านอาหารมาอีกประมาณ 7-8 เจ้า แต่ละเจ้าก็จะเน้นอาหารทานง่าย พวกเบอร์เกอร์อะไรแบบนี้ ตัวผมเองได้ลองชิมสามเมนูก็ใช้ได้เลยครับ ส่วนเบียร์นั้นลองชิมไปประมาณ 6-7 ตัว ก็มีที่ถูกใจและไม่ถูกใจปนๆกัน
ป้ายหน้างานครับ
ระหว่างรอเข้างาน เปิดให้เข้าเลทนิดหน่อยประมาณ 15 นาทีครับ
ได้ voucher มา 50 SGD
ติด tag ข้อมือ
เข้ามาในงานก็จะเจอ background เป็นตึกสูงอยู่
บูธแรกที่เจอเป็นของ Wunderbar ครับ
James Squire แบรนด์จากออสเตรเลีย
Little Island ของ Singapore ครับ
TSA Wines เป็นร้านนำเข้าครับ
ข้ามมาอีกเจนท์เป็น Tuatara จาก New Zealand
ร้าน On Tap เป็นร้านขาย Craft Beer ของ Singapore ครับ มีหน้าร้านอยู่ที่ Chinatown Complex
Albens เป็น Cider ครับ
Archipelago เป็นคราฟท์เบียร์ของสิงคโปร์อีกเจ้า แต่เจ้าของเป็นฝรั่งครับ
บูธนี้มีหลายๆ แบรนด์รวมกันอยู่ครับ Htichino, Fourpure, Yenda
ต่อมาเป็นแบรนด์ Holgate ที่แชร์บูธกับ Pasteur Street จาก Saigon
แล้วก็มาถึงบูธทีมไทยของพวกเราครับ ลำซิ่ง และ StoneHead
ลำซิ่งมาพร้อมแคน
เอามาเป็นขวดหลายสไตล์เลย
เบียร์ลิสต์ของลำซิ่ง
ฝั่งขวาเป็น StoneHead
ป้ายของลำซิ่งครับ
ส่วนของ StoneHead รับทำ OEM
คนจัดงานมากล่าวต้อนรับและมอบรางวัลในการประกวดเบียร์ครับ
รางวัลมีทั้งหมด 12 สไตล์เบียร์ครับ
เดินข้ามไปอีกฝั่งก็จะเป็นเจ้าใหญ่อย่าง Paulaner ครับ
ติดกันเป็น Brewerkz เป็น Brew Pub เจ้าดังของ Singapore
เตนท์ต่อมาเป็นอาหารครับ บูธแรกเป็น brewerkz เช่นกัน เน้นเมนูเบอร์เกอร์
ติดกันเป็น Full of Luck Club เบอร์เกอร์แป้งซาลาเปา
Park Bench Deli ขายข้าวหน้าหมูสามชั้นครับ
ร้านนี้เป็นฟิวชั่นฟู้ด ผสมกันระหว่าง เกาหลีและ เม็กซิกัน
ร้านสุดท้าย The Butchers Club เมนูเด่นคือเนื้อ dry-aged ครับ
เตนท์สุดท้ายมีอีก 3 บูธ บูธแรกเป็นร้านคราฟท์เบียร์บาร์ชื่อ Nickledime
ต่อด้วย Lost Coast Brewery จาก California
สุดท้ายเป็น Wood Chuck Hard Cider
ตรงบริเวณกลางงานเป็นเตนท์ใหญ่ มีโต๊ะให้มานั่งดื่มและรับประทานอาหารครับ
บนเวทีมีวงดนตรีมาแสดงเพิ่มความบันเทิงครับ
ข้างเตนท์มีรถของ iBrew ร้านของอุปกรณ์เจ้าดังของ Singapore จอดอยู่
ตกเย็นเริ่มมีผู้ร่วมงานมากขึ้นครับ
วนกลับมาที่บูธ ลำซิ่ง
สั่งเบียร์ขวดแรกมาลอง Morning in Monsoon เป็นสเตาท์ครับ หอมเลย รสหวานนิดๆ ซ่าน้อยไปนึง อร่อยครับ
หน้าบูธสมาชิกเริ่มเยอะ
Pasteur Street บูธติดกันได้รางวัลหลายตัวเลยครับ แอบถ่ายจากมือเจ้าของแบรนด์
แก้วต่อมาลอง Indica เป็น IPA ของ Lost Coast
น้องคนนี้กดให้ครับ
เบียร์ลิสต์ของ Lost Coast
Indica ของ Lost Coast ครับ ลื่นดี ขมบางๆ หอมน้ำผึ้งอ่อนๆ
Wireless Black IPA ของ 8wired รสแปลกดี สีเข้มแต่ไม่ค่อยมีกลิ่นไหม้ ขมกำลังดีครับ
ทนกลิ่นหอมของเนื้อไม่ไหว ไปสั่ง Dry-aged Sandwich มาลอง ตัวเนื้อดันจืดครับ ขนมปังนุ่ม แต่หัวหอมหวานนุ่มเลย
ที่บูธลำซิ่งมีคนสนใจเยอะพอสมควร เพราะเจ้าอื่นหาดื่มง่าย ของเราหาดื่มยาก
พี่ฝรั่งมาลองเทสต์ลำซิ่ง
บูธอื่นมาของลองเช่นกัน
พี่คนนี้เป็นเจ้าของร้าน iBrew ครับ
เบียร์ตัวต่อมาที่ลองเป็น Southern Latitude ของ Fourpure
Southern Latitude ของ Fourpure ครับ รสฮอปส์ตึ่ยๆ แปลกๆ ขมบางไปหน่อย ตัวนี้ไม่ค่อยโดน
พอค่ำๆ คนเลิกงานปุ๊บ เตนท์เริ่มครึกครื้น
วนไปสั่งอาหารมาเพิ่มเติม hotdog ของร้าน butcher club ครับ ตัวไส้กรอกเป็นเนื้อสับๆ ซอสหวาน
จานนี้เป็นข้าว เนื้อเกาหลี เผ็ดร้อน ชิ้นเนื้อมันๆ กลิ่นหอมควัน ผักกรอบ มีใส่ถั่วแดง มาด้วย
แก้วสุดท้ายในงาน Stereo IPA ของ Stillwater Artisanal Ales รสขมอ่อนๆ หอม ดื่มสบายอีกตัวครับ
หน้าบูธลำซิ่ง/ Stonehead ก่อนกลับ
พี่ๆน้องๆ คนไทยหน้าบูธ
เตนท์หลักช่วงค่ำๆ
เจอกันใหม่ปีหน้าครับ
บริเวณหน้างานด้านนอก เป็นตึกระฟ้าบริเวณอ่าวครับ ไฟสวยงาม
งานโดยรวมก็สนุกดีครับ ขนาดของงานไม่เล็กไม่ใหญ่ สำหรับอากาศออกจะอบอ้าวไปนิด มีลมพัดมาทีถึงจะได้ชื่นใจ แต่ก็ยังดีที่ฝนไม่ตกครับ คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันอีกเช่นเคยครับ