เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมไร่องุ่นและโรงไวน์ GranMonte ที่เขาใหญ่มาครับ ชื่อ GranMonte เป็นชื่อที่ผมได้ยินมาสักพักใหญ่ๆ รู้ว่าเป็นไวน์คนไทยที่ปลูกองุ่นและทำไวน์เองแต่ก็ไม่เคยได้ลองชิมครับ
ตัวไร่อยู่บนถนนผ่านศึก-กุดคล้า เส้นที่วิ่งจากแดรี่โฮมมาทะลุออกถนนธนะรัชต์ จากถนนมิตรภาพระยะทางประมาณ 12.5 กิโลเมตร มาถึงก็เห็นชัดเจนเพราะมีขนาดถึง 100 ไร่
ที่นี่จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายผลิตภัณฑ์พวก ไวน์ แยม และอีกหลายๆ อย่าง มีร้านกาแฟเล็กๆ ด้วย ที่น่าสนใจก็คือมี winery tour วันละ 3 รอบในช่วงหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนถ้าจะมาวันธรรมดาต้องโทรนัดครับ ในทัวร์ก็จะได้ชมไร่องุ่น ได้ชมตัวโรงผลิตไวน์ และก็ปิดท้ายด้วยการจิบไวน์ของ GranMonte ครับ
นอกจากนี้ก็ยังมีบริการห้องพักชื่อ The Guesthouse ด้วย ซึ่งห้องพักติดอยู่กับไร่องุ่นเลย เปิดห้องมาก็เจอเรียงรายเป็นแถวๆ ซึ่งถ้าพักที่นี่ก็จะได้ส่วนลดนิดหน่อยสำหรับค่าอาหารและก็จะได้ไวน์ 1 ขวดด้วยครับ
สำหรับประวัติของ GranMonte นั่นเริ่มกันที่ชื่อก่อนก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่ามาจาก ‘เขาใหญ่’ Gran-ใหญ่ Monte-ภูเขา สถานที่ตั้งของ GranMonte อยู่ที่หุบเขาอโศกครับ พื้นที่รวมประมาณ 100 ไร่ โดยก่อนจะมาเป็นไร่องุ่นเคยเป็นไร่ข้าวโพดมาก่อน แล้วเมื่อ 10 กว่าปีก่อน คุณวิสุทธิ์ โลหิตนาวี เจ้าของ GranMonte ก็มาซื้อที่แล้วเริ่มทำเป็นไร่องุ่น ตอนแรกผลผลิตนั้นจะส่งไปให้โรงไวน์อื่นๆ
จนเมื่อปี 2009 คุณนิกกี้ – วิสุตา ลูกสาวของคุณวิสุทธิ์ เรียนจบด้านการทำไวน์และปลูกองุ่นมาจากออสเตรเลีย (เป็นผู้หญิงคนเดียวในเอเชีย) GranMonte จึงได้เริ่มผลิตไวน์เป็นแบรนด์ของตัวเองครับ
สำหรับทริปนี้ผมก็ได้เข้าพักที่ The Guesthouse แล้วก็ทานอาหารเย็นที่ร้าน Vin Cotto ร้านของทางไร่เอง แล้วก็ได้ร่วม Winery Tour ด้วยครับ คือทริปเดียวคุ้มเลย
ป้ายทางเข้าครับ (รูปจาก Google Maps)
เข้ามาแล้วพนักงานแจ้งว่าให้ไปเช็คอินด้านในตรงร้านอาหาร
มี Welcome Drink เป็นไวน์ Rose ครับ
ถ้าใครไม่ทานไวน์ก็จะมีเป็นน้ำองุ่นให้
ระหว่างรอก็เดินสำรวจของที่วางขายอยู่ เจลลี่ไวน์แดง
ดิปมะกอก
ดอกเกลือครับ มีสามรส เป็น โรสแมรี่ / องุ่นคาร์เบอร์เน่ ฟรองก์ / เชนิน บลองก์ & หญ้าฝรั่น
แยมองุ่น
แยมมะม่วง
เรียบร้อยแล้วพนักงานก็พอมาที่ห้องพักครับ
เข้ามาเป็นเตียงใหญ่พร้อมผ้าเช็ดตัวรูปหงส์
มีทีวีจอแบนติดผนัง
ตู้เสื้อผ้า
เปิดมามีเสื้อคลุม
และตู้เย็นกับมินิบาร์ครับ
ภายในตู้เย็น
ถ้าจองแพคเกจอาหารเย็นมาจะได้รับไวน์ GranMonte 1 ขวดครับ ผมได้เป็น Heritage Syrah 2014
ภายในห้องน้ำ
ส้วม
ฝักบัวอาบน้ำ
ด้านหลังของห้องพักครับ
วิวหน้าห้องของเราครับ
พักผ่อนที่ห้องพักเสร็จ เย็นก็ขับรถมาที่ห้องอาหารอีกครั้งครับ
บรรยากาศภายในห้องอาหาร Vin Cotto
มีน้ำองุ่นมะนาวโซดาต้อนรับ 1 ถ้วย หวานหอมสดชื่นดี
ขนมปังนุ่มร้อน หนังกรอบ เสิร์ฟมากับผลิตภัณฑ์ของไร่
เช่น ดิปมะกอก เค็มๆมัน
สปาเกตตี้คาโบนาร่ามาเป็นจานแรก ครีมมี่ รสเข้มข้นดีครับ อร่อย
ในชุดอาหารจะมีไวน์ให้ด้วยครับ แก้วแรกเป็นวิโอเนียร์ รสแปลกดี ให้ความรู้สึกควันๆ และฝาดๆ
อีกแก้วเป็นโรเซ่ ตัวนี้ใสๆ ไม่หวานมากครับ
เริ่มกันที่สลัดอกเป็ด เป็ดเยอะดี เป็ดนุ่ม หนังมัน รสเค็มอ่อนๆ น้ำสลัดมันๆ เปรี้ยว โรยมาด้วยพริกไทยบดๆ ใส่องุ่นมาด้วยครับ
จานหลักของผมเป็นเนื้อแกะหมักออริกาโน่ จะมาป็นชิ้นๆ ขอบเกรียมๆ เนื้อนุ่ม ไม่คาวรสเค็มๆ
เสิร์ฟมาพร้อมผัดผักพริกหยวกนุ่มๆ เละๆ อร่อยดีครับ
ส่วนตัวเส้นไม่ค่อยอร่อย มันจืดๆ
ของพี่สาวลองเป็นเซ็ตอาหารไทย
ต้มยำครับ
ไวน์ตัวที่สามเป็น เฮอริเทจชีราส สไปซ์นิดๆ หวานหน่อยๆ
แก้วสุดท้ายเป็นโอเรียนท์ชีราห์ เป็นรสไม้โอค ตัวนี้ผมรู้สึกร้อนแรง
ของหวานมี ชีสพาย องุ่นสด รสพายหวานเค็ม เข้ากับองุ่นดีครับ
Creme brûlée หวาน ครีมละมุนอร่อย ด้านหน้าเป็นน้ำตาลเผากรอบ
ของเซ็ตอาหารไทยเป็นสาคูบัวลอย
บรรยากาศร้านบริเวณโซนเอาท์ดอร์
รายการอาหารแนะนำครับ
มีบ่อน้ำด้วย
ตอนเช้าเรากลับมาที่บ่อเดิม
มารับประทานอาหารเช้าครับ
บรรยากาศตอนเช้า อากาศเย็นดีนะครับ
ขนมปัง น้ำส้ม นม น้ำองุ่น ซีเรียล หยิบเองได้เลยครับ
เริ่มด้วยน้ำส้ม
สำหรับอาหารจะมีแบบฝรั่งกับข้าวต้มครับ สั่งเพิ่มได้เรื่อยๆ
ขนมปังนุ่มดีครับ แยมส้มจะเหลวๆ หน่อย รสเปรี้ยวผสมหวานนิดๆ
กาแฟดำเข้มดีครับ
วอฟเฟิลหวานๆ เนื้อนุ่ม ทานเพลินครับ
ผมเลือกทานเป็นไข่คน นุ่มละมุนดี โรยพริกไทยดำมาให้ เบคอนเค็มกำลังดีทอดมาแบบกรอบๆ ไส้กรอกเนื้อแน่น รสชาติดีครับ
มีไข่กระทะให้สั่งด้วย
แพนเค้กเนื้อนุ่มดี รสเค็มมันเนย
ข้าวต้มกุ้งครับ
ปิดมื้อด้วยผลไม้
ทานข้าวเช้าเสร็จก็มารอรอบ winery tour ที่ร้านค้าของไร่ครับ
มีต้นไม้ต่างๆ พวกเบซิล โรสแมรี่ ขายอยู่ด้านหน้า
ภายในร้านค้าครับ
ฝั่งซ้ายจะเป็นมุมกาแฟ
ตรงกลางร้านมีน้ำผึ้งขาย
แยมและดิปต่างๆ
กล้วยอบเจ้าดัง banana society
ผลไม้อบแห้งต่างๆ
มีน้ำส้มสายชูไวน์แดงของไร่เองด้วย
ด้านขวามือจะเป็นจุดขายไวน์ครับ
มีพวกซอง แก้ว ถุง และอุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับไวน์
ไวน์ของ GranMonte ตัวซ้ายได้รางวัลด้วยนะครับ
ตัวเหรียญทองราคาแรงใช้ได้เลย
พอถึงเวลาก็ขึ้นรถเพื่อนั่งชมไร่องุ่น
ไกด์ของเราวันนี้ครับ
องุ่นด็จะมีทั้งแบบมีใบเยอะๆ แบบนี้
แล้วก็แบบต้นเกลี้ยงๆ ซึ่งมันไม่ได้ตายนะครับ เค้าตัดกิ่งและใบทิ้ง รอให้มันงอกและออกลูกให้เก็บได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ในรูปมี weather station ที่ใช้ตรวจสอบสภาพอากาศของไร่ด้วยครับ
แถวนี้เป็นต้นพี่เพิ่งเพาะใหม่
มีการปลูกกุหลาบไว้ด้วย ไกด์บอกว่าไว้ดูโรคต่างๆ เพราะกุหลาบจะเป็นโรคง่าย จะได้รู้ก่อนองุ่นเป็นโรคครับ
สำหรับองุ่นทำไวน์แดงที่ปลูกเยอะก็จะเป็นพันธุ์ Shiraz หรือ Syrah ครับ
พันธุ์ที่ทำไวน์ขาวก็จะมี Chenin Blanc
มาถึงตรงนี้ไกด์บอกให้ลงไปถ่ายรูปได้ เป็นมุมถ่ายรูปเพราะแถวองุ่นจะยาวลึก แต่ตอนที่ผมไปอยู่ในช่วงที่กำลังริดใบทิ้งหมด ก็เลยไม่มีรูปจากมุมยอดนิยมครับ
ถ้าสังเกตที่กิ่งจะเห็นสีขาวๆ เป็นยาที่ทาเพื่อกันเชื้อรา
จากนั้นเราก็มากันที่บริเวณโรงผลิตไวน์ครับ
เข้ามาด้านในก็จะเจออุปกรณ์ในการผลิตไวน์เป็นถังหมัก ถังบ่ม
เครื่องบดองุ่น
ถังบ่มเป็นถังจากเยอรมันนีครับ
ไกด์พาเดินเข้าไปที่ห้องเล็กอีกห้องเป็นห้องที่เก็บถังบาร์เรลไม้โอคเอาไว้ครับ
เค้าจะเอาไวน์ที่หมักแล้วมาบ่มต่อในถังเพื่อให้ได้คาแรคเตอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น แต่ละชนิดก็ใช้เวลาต่างกันไปอยู่ที่ 8-18 เดือน
เป็นถังจากประเทศฝรั่งเศสครับ ความจุใบละประมาณ 500 ลิตร
ในห้องนี้จะปรับอุณหภูมิไว้ที่ 18 องศาเซลเซียส
ออกมาทีมงานก็เปิดวีดีโอเกียวกับตัวไร่องุ่นและโรงไวน์ให้ดูครับ
ไวน์ทั้งหมดของ GranMonte
ให้ตัวโรงไวน์มีห้องแลบไว้สำหรับวัดค่าต่างๆ ของไวน์ครับ
เสร็จจากโรงไวน์ก็ขึ้นรถกลับมาที่ร้านขายของ เพื่อเข้าห้องชิมไวน์ครับ
มีตู้ไวน์ใหญ่ๆ 4 ตู้
มีรางวัลที่ได้มาตั้งแสดงอยู่
มีเปิดวีดีโอให้ดูอีกรอบเป็นประวัติเรื่องเกี่ยวกับไร่และโรงไวน์ GranMonte
มีแครกเกอร์ให้ล้างปากครับ
ในเซ็ตที่ให้ชิมจะมีทั้งหมด 4 ตัว คือ วิโอเนียร์ / โรเซ่ / ชีราส / ไวน์หวาน
ตัวแรกเป็นวิโอเนียร์ปี 2013 ไม่หวานมาก จิบแล้วร้อนในคอนิดๆ
ตัวที่ 2 เป็นโรเซ่ชื่อ สกุณา ซึ่งก็คือชื่อของคุณสกุณา เจ้าของ GranMonte นั่นเองครับ ตัวนี้ รสออกฟรุตตี้ มีติดหวานนิดๆ ไลท์ จิบเพลินดี
ตัวที่ 3 เป็น Orient Syrah กลิ่นไม้โอคแรง บอดี้หนา จิบแล้วฉ่ำๆ มีรสเปรี้ยวกำลังดี
ตัวสุดท้ายเป็นไวน์หวานล้างปากดีครับ กลิ่นสไปซ์ๆ รสหวาน บอดี้หนืดๆ มีฟรุตตี้ๆ จบตัวนี้ก็เป็นอันครบ Winery Tour ครับ
ตัดภาพมาอีกทีเป็นมื้อเย็น ครอบครัวเราไม่ได้ไปกินข้างนอกทานกันที่ร้าน Vin Cotto อีกครั้งเพราะยังอยากลองอาหารอีกหลายจาน เริ่มมื้อด้วยไวน์ Vandelho 2015 กลิ่นพริกหยวก ผสมฟรุตตี้ๆ น้ำผึ้ง ดรายดี
ทางร้านให้เห็ดทอดมาฟรีหนึ่งจานครับ แป้งทอดมากรอบ ปรุงรสมาเรียบร้อย เห็ดชิ้นใหญ่นุ่มร้อน อร่อยดีครับ
สโมคแซลมอนมาเป็นจานเรียกน้ำย่อย เค็มอร่อย โรยหน้ามาด้วยผักชีลาว และเคเปอร์
จานนี้เป็น Foie gras ทอดมาขอบเกรียมๆ หนึบร้อน รสไม่เข้มข้นมาก เสิร์ฟมากับลูกแพร
สปาเกตตี้เส้นดำซีฟู๊ดของพี่สาว พี่สาวว่าอร่อยดีครับ ผมไม่ได้ชิม
แกะตุ๋น นุ่มเปื่อย รสโรสแมรี่เยอะ โรยหน้าด้วยชีสยืดๆ เสิร์ฟมาพร้อมแมชโปเตโต้เนื้อเนียนแต่จืดไปนิด มีแครอทเล็กๆ ย่างมานุ่มดี อร่อยดีครับ
ข้าวผัดไข่ เบคอน ผัดมาแห้งดี ข้าวร่วนๆ รสแมกกี้ๆ ครับ
สรุปว่าผมพักอยู่ที่ไร่ 2 คืนแล้วก็ทัวร์ไร่และโรงไวน์ด้วย ประทับใจมากครับ คือรู้สึกว่าเจ้าของตั้งใจดี มีความเป็น family owned อาจจะเทียบกับเจ้าใหญ่ๆ ไม่ได้ แต่ก็รู้สึกอบอุ่นดี โดยช่วงที่ผมไปพักมีโอกาสได้เจอคุณวิสุทธิ์ ซึ่งก็ทักทายแขกที่มาพักทุกคนอย่างเป็นกันเอง ตอนเช้านี่ก็ยังเดินตรวจองุ่นเองทุกเช้า (พอดีผมตื่นมาเจอหน้าห้องพัก)
สำหรับคอไวน์น่ามามากๆ ครับ แต่ถ้าเป็นคนไม่ดื่มก็แวะมาทานอาหาร ซื้อสินค้า หรือถ้ามีเวลาก็น่าเข้าชมไร่และตัวโรงไวน์ครับ
GranMonte Vineyard & Winery ปากช่อง สระบุรี
เบอร์โทร : 081-900-8282, 080-661-7555
เว็บไซต์
เพจ
foursquare