อาทิตย์ก่อนได้ไปลองชิมอาหารญี่ปุ่นแบบแปลกๆ ครับ เป็นสไตล์ที่เรียกว่า ‘Shojin Ryori’ เป็นเมนูที่ใช้ผักปรุงเท่านั้นไม่มีเนื้อสัตว์ ซึ่งมีที่มาจากการประกอบอาหารของพระเซนที่ญี่ปุ่น โดยเชฟที่มาทำอาหารมื้อนี้ให้เป็นชาวญี่ปุ่นชื่อคุณ Keiko ครับ ตอนเห็นงานนี่เลยจากวันที่โพสต์มา 2 วันแล้วในใจก็คิดจะทันเปล่าวะ อดกินแหง โทรไปโชคดีพอมีที่ว่างครับ นอกจากมี Chef Table แล้วก็ยังมี Workshop ที่จัดขึ้นอีกวันด้วย
คุณ Keiko เป็นชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ประมาณ 4 ปีแล้ว มีร้านชื่อ Studio 3 ที่อยู่ในบริเวณโรงแรมศรีประกาศ ในร้านจะมีเต้าหู้และซอสต่างๆ ที่คุณ Keiko และคุณ Yuki (สามี) ช่วยกันทำครับ เป็นเครื่องปรุงที่เน้นวัตถุดิบธรรมชาติและปลอดสารเคมี ซึ่งก็จะเน้นการกินอาหารที่บาลานซ์แร่ธาตุและสภาวะต่างๆของร่างกาย ไม่ให้ร้อนหรือเย็นไป โดยมีการใช้ Koji ในซอสต่างๆ ที่นำมาปรุงอาหาร
ทีนี้ Koji มันคืออะไร Koji คือ หัวเชื้อราหรือ starter ใช้ในการหมัก โดยนำไปใส่ในวัตถุดิบพวกธัญพืช อย่างถั่วและข้าว ซึ่งตัว Koji มีหน้าที่ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในวัตถุดิบพอหมักเสร็จก็จะออกมาเป็น ซีอิ๊ว มิโสะ นัตโตะ รวมถึง เหล้าสาเก ประมาณนี้ อย่างในบ้านเรา ลูกแป้งที่ใช้ทำเหล้าขาวก็เรียกว่าเป็น koji แบบหนึ่งครับ
ตัวงานจัดที่ร้าน Lilou Cafe อยู่ในซอยราชครู (พหลโยธิน ซอย 5) เป็นเวิ้งหน้าบ้านของ Hostel เจ้าดัง The Yard ตัวร้านเป็นห้องขนาดเล็กๆ ขายกาแฟและขนมต่างๆ พอวันเสาร์อาทิตย์ก็จะมีเสิร์ฟอาหารด้วย โดยเมนูของร้านจะเน้นเป็น Vegan (มังสวิรัติ) ใครควบคุมน้ำหนักก็มาลองได้ครับ ในร้านยังมีของกระจุกกระจิกขายอีกด้วย นอกจากนี้ตรงลานดานหน้าก็ยังมีร้านเบอร์เกอร์ชื่อ Paper Butter อยู่อีกร้าน แต่อิ่มเกินครับไม่ได้ลองชิม

ตัวร้าน Lilou ครับ

ฝั่งขวามือเป็นร้านเบอร์เกอร์ชื่อ PaperButter

เข้ามาด้านในร้านขนาด ฝั่งซ้ายเป็นโซนครัวและที่ชงกาแฟครับ

มีขนมต่างๆ ขายอยู่นิดหน่อย

ฝั่งขวาเป็นที่นั่ง

ตรงกลางมีของกระจุกกระจิกขาย

พวกแก้วกระเบื้อง ช้อนไม้อะไรอย่างนี้

เครื่องประดับแฮนด์เมด

เมนูธรรมดาของทางร้าน

อีกฝั่งเป็นซอสและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของคุณ Keiko และ Yuki

ซอสต่างๆ ที่ใช้ koji ในการหมักครับ

มีใบอธิบายผลิตภัณฑ์ต่างๆ แจกด้วย

บรรยากาศภายในร้านจากอีกมุม

คุณ Keiko เชฟของเราในวันนี้วุ่นเลย

พอจัดเสร็จก็ยิ้มออก ฮ่าๆ ขวามือคือคุณ Yuki สามีครับ

รายการอาหารประจำวันนี้

น้ำกระเจี๊ยบผสมโซดา สดชื่นดีครับ

อาหารมาแล้วครับ เสิร์ฟมาบนถาดไม้สานแล้วรองด้วยกระดาษอีกที มีทั้งหมด 8 อย่าง

เริ่มที่เทมเป้ชุบแป้งทอด เทมเป้คือถั่วเหลืองที่นำไปหมักกับจุลินทรีย์ มีต้นกำเนิดที่อินโดนีเซียครับ มีโปรตีนสูง เอามาทอดหรือย่างก็ได้ วันนี้ได้ทานแบบทอด กรอบนอกนุ่มใน มีรสซอสเค็มเปรี้ยว ตัวเนื้อเทมเป้ผมทานแล้วนึกถึงตับบด คือเนียนๆ มันๆ ประมาณนั้น

ผักกวางตุ้งลวกมากรุบๆ รสอ่อนๆ

รากบัวครับ ถ้าฟังไม่ผิดเหมือนจะปรุงรสด้วยผงที่ใช้ทำโอโคโนมิยากิ รสก็เค็มหวาน กรุบๆ

เห็ดนุ่มๆ รสเปรี้ยว โปะด้านบนมามะเขือเทศเหมือนซัลซ่า ทานๆไป มีรสเผ็ดนิดๆ

อันนี้หน้าตาเหมือนปลา แต่จริงๆ คือมะเขือม่วง เสิร์ฟมาเย็นๆ รสเค็มมิโสะรองมาด้วยแครอท

สลัดมันฝรั่งใส่คีนัวกับต้นหอมซอยครับ ทานๆ ไปมีเผ็ดนิดๆ เหมือนกัน

หน่อไม้ดองกรุบๆ รสหวานเปรี้ยว ด้านนอกห่อมาด้วยใบอะไรซักอย่าง โรยด้วยเมล็ดทานตะวัน

ดอกกละหล่ำดองครับ เค้าใส่เมล็ดผักชีมาด้วยแปลกดี แต่ทานแล้วก็เข้ากันดีนึกถึงหมูแดดเดียว

ข้าวเป็นก็อร่อยครับ มันนุ่มหนึบ Keiko บอกผสมข้าวสวยกับข้าวเหนียวนิดหน่อย

อีกอย่างที่ผมชอบคือสาหร่ายขวามือของข้าวครับ มันนุ่มๆ ฉ่ำๆ รสเค็มหวาน เอาไปทานกับผักอันที่จืดๆ อร่อยดี

มีซุปมิโสะให้หนึ่งถ้วย รสอ๊อนอ่อน สงสัยผมจะทานเค็มไป มีต้นหอมญี่ปุ่น หัวหอม แครอท เปื่อยดีครับ
ก่อนเริ่มมื้อคุณ Keiko ก็จะมาอธิบายแต่ละเมนูให้ฟัง เป็นภาษาไทยผสมอังกฤษและญี่ปุ่น ฮ่าๆ สนุกดีครับ บรรยากาศเป็นกันเองดี รสชาติอาหารก็อร่อยและค่อนข้างยูนีค คือมันไม่เหมือนอาหารญี่ปุ่นแบบ Tradition พวก Washoku อะไรอย่างนี้ มันมีคาแรคเตอร์ซอสที่ใช้ Koji และก็คงมีรสมือของเชฟด้วย โดยรวมประทับใจมากครับ ตามไปทานที่เชียงใหม่อีกแน่นอน
ส่วนร้าน Lilou ก็จะกลับไปลองเมนูปกติของทางร้านอีกที คุณปุ๋มเจ้าของร้านเป็นกันเองดีมากครับ บรรยากาศร้านน่ารัก เล็กๆ นึกถึง Shinya Shokudo อีกแล้ว ฮ่าๆ ยังไงจะกลับไปลองชิมกาแฟ ขนมและ อาหารอีกทีครับ
Studio 3 Aeeen Works โรงแรมศรีประกาศ วัดเกต เชียงใหม่
เบอร์ : 097 943 7039
เปิด : พฤหัสบดี-อาทิตย์ 11.00-17.00 จันทร์-พุธ ปิด
เพจ
Lilou Cafe ซอยราชครู พหลโยธิน
เบอร์ : 089 142 8203
เปิด : พุธ-ศุกร์ 10.00-18.00 เสาร์-อาทิตย์ 9.00-18.00 จันทร์-อังคาร ปิด
เพจ
foursquare