จากโรง Achel คณะของเราเดินทางลงใต้ต่ออีกประมาณ 20 กิโลเมตรในประเทศเบลเยี่ยม มีจุดหมายคือ เมือง Bocholt ครับ
ที่นี่เราจะมาแวะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Bocholter Brouwerijmuseum ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงเบียร์ Martens (เจ้าของโรงก็คือเจ้าของพิพิธภัณฑ์นั่นเอง)
มาถึงเราก็นั่งจิบเบียร์กันที่ร้าน Brasserie DE TORENKRUIER ใกล้ๆ กับตัวโรง ซักพักก็ไปเยี่ยมชมตัวพิพิธภัณฑ์กันครับ






















































โดยคุณ Fons Martens เจ้าของรุ่นที่ 8 เป็นผู้มาต้อนรับ และก็พาเราเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวเอง ซึ่งที่นี่จะรวบรวมของเก่าแก่ตั้งแต่สมัยก่อน ทั้งของโรง Martens เอง และบางชิ้นก็มาจากโรงอื่นๆ ครับ
สำหรับประวัติของโรง Martens นั้นย้อนกลับไปได้ถึงปี 1758 หรือกว่า 260 ปีเลยครับ โดยมีผู้ก่อตั้งคนแรกคือ Adriaan Geerkens และภรรยาของเขา Isabella Geebelen ได้เปิดกิจการโรงเตี๊ยมในหมู่บ้าน Bocholt ชื่อ De Star ซึ่งมีเบียร์ที่ Adriaan ต้มเองเสิร์ฟให้แขกได้ดื่มด้วย
นอกจากต้มขายในโรงเตี๊ยมแล้ว Adriaan ก็ยังต้มเบียร์ให้กับชาวนาในละแวกนั้นด้วย โดยชาวนาก็จะขนวัตถุดิบต่างๆ มา และจ่ายค่าจ้างให้กับเขา ตัว Adriaan เองเสียชีวิตในปี 1783 ภรรยาของเขาก็ดูแลกิจการต่อ
มาถึงปี 1792 ก็เป็นรุ่นที่ 2 ของโรง เมื่อ Catharina-Elisabeth ลูกสาวของ Isabella ก็ได้แต่งงานกับ Jean-Laurent Schrijvers และดูแลโรงเตี๊ยมและโรงเบียร์ต่อ
รุ่นที่ 3 เริ่มในปี 1823 เมื่อ Anna-Isabella ลูกสาวของ Catharina-Elisabeth และ Jean-Laurent แต่งงานกับ Theodorus Martens สืบทอดกิจการของตระกูลต่อ ซึ่งในยุคนี้เศรษฐกิจเติบโตเป็นอย่างดี ทำให้เมืองเจริญตามส่งผลดีกับกิจการของทั้งคู่
ผ่านมาราว 30 ปี ในปี 1852 ลูกชายของ Theodorus ชื่อ Frans Martens เป็นรุ่นที่ 4 รับช่วงต่อจากพ่อ ในปีนี้เองโรงเบียร์หลายๆ โรงต้องปิดตัวไปเนื่องจากกฎหมายใหม่ จุดนี้ Frans เองเห็นช่องทางที่จะขายเบียร์ออกไปนอก Bocholt และก็ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดไว้ จึงต้องมีการขยับขยายโรงมาอยู่อีกฝั่งของถนน ซึ่งโรงดั้งเดิมนี้ก็ยังอยู่มาจนถังปัจจุบัน
ระหว่างปี 1888-1923 เป็นรุ่นที่ 5 มี Jean Martens เป็นผู้ดูแลกิจการ ซึ่งเป็นช่วงที่หนักหนาสำหรับโรงเบียร์ หลายโรงต้องปิดตัวลงอีกครั้งเนื่องจากสงครามโลกครั้ง 1 แต่ก็เป็นโชคดีของโรง Martens เพราะอยู่ในโลเคชั่นที่ดี ใกล้คลองและรถไฟทำให้สามารถส่งไปขายต่างถิ่นได้ นอกจากนี้ช่วงสงคราม เยอรมันเลือกให้โรงเป็นโรงเบียร์หลักในโซนนี้ ก็เลยยังพอจะขายเบียร์ได้
สำหรับรุ่นที่ 6 เริ่มขึ้นในปี 1923 เมื่อ Frans Martens เข้ามาดูแลโรงต่อ เป็นคนแรกที่เริ่มเอาเบียร์ใส่ขวดขาย แต่กิจการก็มาสะดุดลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวโรงต้องหยุดการผลิตไป หลังสงครามจบลงจึงได้กลับมาดำเนินการใหม่ ซึ่ง Frans เองก็ขยายกิจการทั้งซื้อรถขนส่งใหม่ รวมถึงทำ Brewhouse ใหม่ขึ้นด้วย
ปี 1952 Frans Martens ส่งต่อกิจการให้กับลูกชาย 2 คน คือ Jean และ Gérard Martens เป็นรุ่นที่ 7 ของโรง และเปลี่ยนชื่อเป็นทางการว่า Brouwerij Martens P.V.B.A ทั้งสองได้ปรับปรับปรุงโรงให้มันสมัยยิ่งขึ้น
มาถึงปัจจุบัน รุ่นที่ 8 มี Fons และ Jan Martens เป็นผู้ดูแล ซึ่งทั้งสองคนได้ทำให้โรงเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ มีการกระจายเบียร์ไปขายตามประเทศต่างๆ
หลังจากเดินจนครบแล้วชาวคณะก็กลับมาที่ร้าน DE TORENKRUIER เพื่อรับประทานอาหารอีกครั้ง เสร็จก็ออกเดินทางต่อไปยังที่จุดหมายต่อไปครับ
สำหรับที่ Bocholter Brouwerijmuseum หากใครสนใจจะมาชม สามารถติดต่อไปขอเข้าเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.bocholterbrouwerijmuseum.be/ ครับ
Bocholter Brouwerijmuseum เมือง Bocholt, Belgium
เบอร์ : +32 (0)89 48 16 76
เว็บไซต์
foursquare