Ginza Sushi Rin Nishimura ซูชิแบบโอมากาเสะย่านกินซ่า โตเกียว

617 views | Posted on January 4, 2021

วันที่สองในโตเกียวผมตื่นสายหน่อย หากาแฟทาน ก่อนจะไปร้านซูชิที่จองเอาไว้อีกร้านครับ อยู่ในแถวย่าน ginza เช่นกัน ที่จองร้านนี้เพราะว่าเปิดมื้อกลางวันด้วย ร้านนี้ชื่อว่า Sushi Rin Nishimura ครับ

ร้านอยู่ห่างจากสถานี Ginza ประมาณ 300 เมตร ผมมาถึงก่อนเวลาจองนิดหน่อย ตอนแรกก็งงๆ ไม่แน่ใจว่าร้านอยู่ตรงไหน สรุปว่าต้องลงบันไดไปชั้นใต้ดินครับ

พนักงานมาต้อนรับ บอกรอซักครู่ใกล้พร้อมแล้ว จากนั้นก็พาเข้าไปนั่งบริเวณเคาเตอร์ครับ ที่นี่ขนาดค่อนข้างเล็ก น่าจะนั่งได้ประมาณ 6-7 คนเท่านั้น ผมได้นั่งริมสุดติดกับฝั่งครัวด้านใน ไม่นานลูกค้าก็เต็มครับ เป็นชาวต่างชาติด้วยแลก็คนญี่ปุ่นด้วย

ทางเข้าร้านเป็นบันไดลงไปด้านล่างชั้นใต้ดินครับ

ปลา Shirauo (ปลาเงิน) ชุบแป้งบางๆ ทอด แป้งกรอบนิด เนื้อปลานุ่ม รสเค็มอ่อนๆ

ข้อดีของร้านนี้อย่างหนึ่งคือ เชฟจะเปิดหนังสือให้ดูว่าคือปลาอะไร

ล้างปากด้วยซุปปลาไหลทะเล (Anago) ตัวปลาลื่นๆ เหลวๆ รสออกเค็มเปรี้ยว กลิ่นยุสุอ่อนๆ มีหน่อไม้นุ่มๆ ถ้วยนี้สดชื่น อร่อยดีครับ

เมนูต่อมาเป็นปลาน้ำลึกหายาก มีเป็นฤดูกาลเท่านั้น ชื่อว่าปลา Kinki หั่นมาไม่หนามาก เนื้อนุ่ม ตรงขอบคุณครับดึ๋งๆ รสค่อนข้างจืด ตัวน้ำราดรสอ่อน เปรี้ยวบางๆ ด้านบนโรยด้วยต้นหอมซอยๆ

สลับเป็นเมนูหอยบ้างครับ เป็นหอย Tsubugai หรือหอยสังข์ชนิดหนึ่ง มาจาก Hokkaido บางชิ้นกรุบหนึบ บางชิ้นตรงขอบ แข็งๆ รสคาวนิด ต้องทานคู่กับวาซาบิครับ

ตามมาด้วยปลา Tachiuo ย่าง บ้านเราเรียกปลาดาบเงิน หั่นมาเป็นชิ้น กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร เสิร์ฟมาร้อนๆ สัมผัสได้ถึงความมัน หนังกรอบ รสเค็ม เนื้อนุ่ม อร่อยดีครับ

ทูน่า 2 แบบถูกยกมาเสิร์ฟเป็นลำดับถัดมา ชิ้นซ้ายมือเป็นแบบดิบทอปด้วยคาเวียร์ เนื้อปลาเย็น มัน ละลาย มีความกรึ่บตรงขอบหน่อย คาเวียร์รสเค็มกำลังดี ทานด้วยกันทำให้เนื้อปลาออกหวานครับ ส่วนชิ้นขวามือ เชฟทาด้วยซอสโชยุแล้วเอาไปย่าง ด้านบนใส่วาซาบิมานิดนึง ชิ้นปลามัน หอมควันเกรียมๆ อร่อยดีทั้งสองแบบครับ

จานต่อมาจานเล็กๆ เป็น อังกิโมะ หรือตับปลา monkfish เสิร์ฟมาสามชิ้น เนื้อเนียนนุ่ม มาเย็นๆ รสเค็มหวาน อร่อยดีครับ

ตับหมดต่อด้วยไข่ปลา แต่เป็นไข่ปลาแดดเดียว มีชื่อเรียกว่า คาราสุมิ สัมผัสหนึบๆ รสเค็มมัน เค็มกำลังดีไม่มากไปครับ มีรสหวานนิด ชอบครับ

ปลาซาบะที่เราคุ้นเคย เชฟนำไปรมควัน คำแรกเชฟให้กินเปล่าๆ เนื้อนุ่มหนังกรุบๆ รสหวาน เค็มนิด หอมกลิ่นควันๆ อีกสองคำจิ้มโชยุ

ซูชิคำแรกเป็นปลา Kohada เนื้อนุ่มมัน เย็นๆ ส่วนข้าวอุ่นๆ หุงนุ่มหน่อย มีรสเปรี้ยวบางๆ

คำต่อมาเป็น Hirame หรือปลาตาเดียวครับ สดใหม่ เนื้อหนึบ ใส่วาชาบิมาให้เรียบร้อยแล้ว ข้าวนุ่มอุ่น เปรี้ยว เข้ากันดีเลย คำนี้ชอบครับ

อีกคำเป็นเอ็นงาวะ เอาไปกริลล์มาพอมีกลิ่นเกรียมเล็กน้อย มันหน่อย เคี้ยวแล้วได้ความกรุบๆ

แล้วก็ได้ทานชิราโคะของปลาปักเป้าอีกจานเหมือนเมื่อวานที่ร้าน Kinura ครับ ที่นี่เอาไปย่าง มาอุ่นๆ ครีมมี่ เค็มนิดๆ ตรงหนังด้านนอกหนึบๆ ข้างในครีมๆ ด้านล่างเป็นข้าวโรยไข่แดง เมนูนี้ก็อร่อยครับ

สลับมาเป็นหอยอีกหนึ่งคำครับ เป็นหอย Akagai หรือหอยแครงยักษ์ญี่ปุ่น texture กรุบๆ แต่รสอ่อน ทาานกับข้าวก็รู้สึกจืดๆ อยู่ดีครับ คำนี้ไม่ค่อยโดน

ปลา Iwashi ตามมาอีกคำครับ บั้งสวยงามมากๆ เป็นริ้วเล็กๆ รู้สึกได้ถึงความมันตอนเข้าปาก ตัดด้วยรสเค็มและเปรี้ยว ชิ้นปลานี่เนื้อเยอะหน่อย คำนี้ชอบครับ

ลูกค้าท่านอื่นได้เป็นกุ้ง kuruma ส่วนผมได้หอยอีกคำ เป็นหอยปีกนกหรือ Hokkigai ครับ มีทั้งความกรุบและความนุ่มอยู่ในชิ้นเดียว มีควันบางๆ ด้วย เปรี้ยวนิด รสทะเลหน่อยๆ

คำต่อมาเป็นปลา Kajiki Maguro บ้านเราน่าจะเรียกว่ากระโทง นั่นก็คือปลาที่มีเขาแหลมๆ เนื้อเนียนดีครับ มันนิดๆ มีรสของยุสุบางๆ ข้าวหนึบๆ หน่อย

ต่อด้วยเนื้อแดงของปลาทูน่าหรือส่วน Akami นั่นเองครับ หั่นหนาหน่อยเคี้ยวแล้วรู้สึกถึงความหนึบ ไม่มีคาวเลือด มีรสเปรี้ยวแทรกนิด ชอบครับ

ไล่สเตปตามมาด้วยชูโทโร่ เนื้อนุ่ม มัน ลื่นๆ เนื้อเย็นๆ เปรี้ยวท้ายๆ อร่อย ชอบเช่นกัน

ปิดท้ายปลาทูน่าด้วย โอโทโร่ เนื้อนุ่ม เหลว มันๆ มีรสเผ็ดนิด เปรี้ยวบางๆ กรึบเอ็นนิดหน่อย สดใหม่ดี

จบเนื้อปลาทูน่าก็เป็นไข่หอยเม่นสองเจ้าให้ลองถึงความแตกต่างกัน

คำแรกเป็น Maruki ครีมมี่ รสหวาน เค็ม เหลวๆ หน่อยครับ อร่อยดี

อีกคำเป็นชื่อที่คุ้นหูกันหน่อยนั่นคือ Bafun เสิร์ฟมาเป็นโรล สาหร่ายกรุบๆ ครีม หวาน เย็น มีความแบบนมๆ อร่อยดีเช่นกัน

ต่อด้วยปลาไหลทะเล หรือ Anago เนื้อเหลว ละลายเลยครับ มาอุ่นๆ รสหวาน เค็ม เนื้อนี่เคี่ยวมาจนเนียนๆ อร่อยดีครับ

สุดท้ายเป็นโรลปลาทูน่าใส่กับแตงดองกรุบๆ ครับ เนื้อปลามันๆ เย็นสาหร่ายกรอบๆ

และมีไข่หวานเนื้อนุ่มเย็นแน่นๆ เป็นเมนูจบคอร์สครับ

ขออนุญาตถ่ายรูป เชฟ Hidenori Nishimura ไว้เป็นที่ระลึก

ที่นี่เสิร์ฟซูชิแบบโอมากาเสะโดยเชฟ Hidenori Nishimura ด้วยวัตถุดิบอย่างดีจากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปลา ข้าว น้ำส้มสายชู โชยุรวมถึงสาเกที่เลือกคัดสรรมาโดยเฉพาะครับ

รอไม่นานจานแรกก็มาเสิร์ฟครับ เป็นเมนูปลา Shirauo (ปลาเงิน) ชุบแป้งบางๆ ทอด แป้งกรอบนิด เนื้อปลานุ่ม รสเค็มอ่อนๆ

ล้างปากด้วยซุปปลาไหลทะเล (Anago) ตัวปลาลื่นๆ เหลวๆ รสออกเค็มเปรี้ยว กลิ่นยุสุอ่อนๆ มีหน่อไม้นุ่มๆ ถ้วยนี้สดชื่น อร่อยดีครับ

เมนูต่อมาเป็นปลาน้ำลึกหายาก มีเป็นฤดูกาลเท่านั้น ชื่อว่าปลา Kinki หั่นมาไม่หนามาก เนื้อนุ่ม ตรงขอบคุณครับดึ๋งๆ รสค่อนข้างจืด ตัวน้ำราดรสอ่อน เปรี้ยวบางๆ ด้านบนโรยด้วยต้นหอมซอยๆ

สลับเป็นเมนูหอยบ้างครับ เป็นหอย Tsubugai หรือหอยสังข์ชนิดหนึ่ง มาจาก Hokkaido บางชิ้นกรุบหนึบ บางชิ้นตรงขอบ แข็งๆ รสคาวนิด ต้องทานคู่กับวาซาบิครับ

ตามมาด้วยปลา Tachiuo ย่าง บ้านเราเรียกปลาดาบเงิน หั่นมาเป็นชิ้น กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร เสิร์ฟมาร้อนๆ สัมผัสได้ถึงความมัน หนังกรอบ รสเค็ม เนื้อนุ่ม อร่อยดีครับ

ทูน่า 2 แบบถูกยกมาเสิร์ฟเป็นลำดับถัดมา ชิ้นซ้ายมือเป็นแบบดิบทอปด้วยคาเวียร์ เนื้อปลาเย็น มัน ละลาย มีความกรึ่บตรงขอบหน่อย คาเวียร์รสเค็มกำลังดี ทานด้วยกันทำให้เนื้อปลาออกหวานครับ

ส่วนชิ้นขวามือ เชฟทาด้วยซอสโชยุแล้วเอาไปย่าง ด้านบนใส่วาซาบิมานิดนึง ชิ้นปลามัน หอมควันเกรียมๆ อร่อยดีทั้งสองแบบครับ

จานต่อมาจานเล็กๆ เป็น อังกิโมะ หรือตับปลา monkfish เสิร์ฟมาสามชิ้น เนื้อเนียนนุ่ม มาเย็นๆ รสเค็มหวาน อร่อยดีครับ

ตับหมดต่อด้วยไข่ปลา แต่เป็นไข่ปลาแดดเดียว มีชื่อเรียกว่า คาราสุมิ สัมผัสหนึบๆ รสเค็มมัน เค็มกำลังดีไม่มากไปครับ มีรสหวานนิด ชอบครับ

ปลาซาบะที่เราคุ้นเคย เชฟนำไปรมควัน คำแรกเชฟให้กินเปล่าๆ เนื้อนุ่มหนังกรุบๆ รสหวาน เค็มนิด หอมกลิ่นควันๆ อีกสองคำจิ้มโชยุ ก็อร่อยไปอีกแบบครับ

ซูชิคำแรกเป็นปลา Kohada เนื้อนุ่มมัน เย็นๆ ส่วนข้าวอุ่นๆ หุงนุ่มหน่อย มีรสเปรี้ยวบางๆ

คำต่อมาเป็น Hirame หรือปลาตาเดียวครับ สดใหม่ เนื้อหนึบ ใส่วาชาบิมาให้เรียบร้อยแล้ว ข้าวนุ่มอุ่น เปรี้ยว เข้ากันดีเลย คำนี้ชอบครับ

อีกคำเป็นเอ็นงาวะ เอาไปกริลล์มาพอมีกลิ่นเกรียมเล็กน้อย มันหน่อย เคี้ยวแล้วได้ความกรุบๆ

แล้วก็ได้ทานชิราโคะของปลาปักเป้าอีกจานเหมือนเมื่อวานที่ร้าน Kinura ครับ ที่นี่เอาไปย่าง มาอุ่นๆ ครีมมี่ เค็มนิดๆ ตรงหนังด้านนอกหนึบๆ ข้างในครีมๆ ด้านล่างเป็นข้าวโรยไข่แดง เมนูนี้ก็อร่อยครับ

สลับมาเป็นหอยอีกหนึ่งคำครับ เป็นหอย Akagai หรือหอยแครงยักษ์ญี่ปุ่น texture กรุบๆ แต่รสอ่อน ทาานกับข้าวก็รู้สึกจืดๆ อยู่ดีครับ คำนี้ไม่ค่อยโดน

ปลา Iwashi ตามมาอีกคำครับ บั้งสวยงามมากๆ เป็นริ้วเล็กๆ รู้สึกได้ถึงความมันตอนเข้าปาก ตัดด้วยรสเค็มและเปรี้ยว ชิ้นปลานี่เนื้อเยอะหน่อย คำนี้ชอบครับ

ลูกค้าท่านอื่นได้เป็นกุ้ง kuruma ส่วนผมได้หอยอีกคำ เป็นหอยปีกนกหรือ Hokkigai ครับ มีทั้งความกรุบและความนุ่มอยู่ในชิ้นเดียว มีควันบางๆ ด้วย เปรี้ยวนิด รสทะเลหน่อยๆ

คำต่อมาเป็นปลา Kajiki Maguro บ้านเราน่าจะเรียกว่ากระโทง นั่นก็คือปลาที่มีเขาแหลมๆ เนื้อเนียนดีครับ มันนิดๆ มีรสของยุสุบางๆ ข้าวหนึบๆ หน่อย

ต่อด้วยเนื้อแดงของปลาทูน่าหรือส่วน Akami นั่นเองครับ หั่นหนาหน่อยเคี้ยวแล้วรู้สึกถึงความหนึบ ไม่มีคาวเลือด มีรสเปรี้ยวแทรกนิด ชอบครับ

ไล่สเตปตามมาด้วยชูโทโร่ เนื้อนุ่ม มัน ลื่นๆ เนื้อเย็นๆ เปรี้ยวท้ายๆ อร่อย ชอบเช่นกัน

ปิดท้ายปลาทูน่าด้วย โอโทโร่ เนื้อนุ่ม เหลว มันๆ มีรสเผ็ดนิด เปรี้ยวบางๆ กรึบเอ็นนิดหน่อย สดใหม่ดี

จบเนื้อปลาทูน่าก็เป็นไข่หอยเม่นสองเจ้าให้ลองถึงความแตกต่างกัน คำแรกเป็น Maruki ครีมมี่ รสหวาน เค็ม เหลวๆ หน่อยครับ อร่อยดี

อีกคำเป็นชื่อที่คุ้นหูกันหน่อยนั่นคือ Bafun เสิร์ฟมาเป็นโรล สาหร่ายกรุบๆ ครีม หวาน เย็น มีความแบบนมๆ อร่อยดีเช่นกัน

ต่อด้วยปลาไหลทะเล หรือ Anago เนื้อเหลว ละลายเลยครับ มาอุ่นๆ รสหวาน เค็ม เนื้อนี่เคี่ยวมาจนเนียนๆ อร่อยดีครับ

สุดท้ายเป็นโรลปลาทูน่าใส่กับแตงดองกรุบๆ ครับ เนื้อปลามันๆ เย็นสาหร่ายกรอบๆ และมีไข่หวานเนื้อนุ่มเย็นแน่นๆ เป็นเมนูจบคอร์สครับ

ใช้เวลาในมื้อประมาณ 1.45 ชั่วโมงครับ โดยรวมก็โอเคครับ เชฟเยิ้มแย้มอัธยาศัยดี คอยเปิดหนังสือให้ดูตลอดว่าคำนี้คือปลาอะไร สาเกที่แพริ่งมาด้วยก็อร่อยดีครับ ข้อดีของที่นี่คือเปิดกลางวันด้วยครับ ถ้าสนใจสามารถจองได้ที่เว็บ pocket-concierge.jp ครับ

Ginza Sushi Rin Nishimura
เบอร์ : +81335755677
เปิด : จันทร์ 17.00-22.00 อังคาร-เสาร์ 11.30-14.00, 17.00-22.00 อาทิตย์ปิด
เว็บไซต์
เพจ
foursquare