เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในทริป Road To Holland ของ Captain Barrel นั้นผมเดินทางด้วยสายการบิน EVA เป็นครั้งแรกครับ
คือจากกรุงเทพไปสนามบิน Amsterdam Schiphol นั้น ถ้าบินตรงจะมี KLM และ EVA ครับ โดยของ EVA จะออกเดินทางประมาณเที่ยงครึ่งและไปถึงช่วงค่ำของเนเธอแลนด์
สำหรับเลาจน์ที่สุวรรณภูมิมีเลาจน์ของ EVA เอง หรือจะใช้บริการเลาจน์ของสายการบินอื่นๆ ในเครือ Star Alliance ก็ได้ครับ (การบินไทย, Turkish, Singapore Airlines)
Continue Reading
เมื่อเดือนกันยายนที่ผมได้ไปร่วมงาน MBCT ที่โตเกียวนั้น ผมได้เดินทางด้วยสายการบิน Air Asia ครับ เป็นการนั่งระยะไกลที่สุด ปกติก็จะนั่งแค่เชียงใหม่ สิงคโปร์อะไรอย่างนี้
สาเหตุที่ได้มาลองก็เพราะว่าตอนที่จองนั้น ราคาที่นั่งแบบ flat bed เป็นโปรโมชั่น ถูกกว่าปกติพอสมควร ก็เลยตัดสินใจลองบินดูครับ
ที่นั่ง flat bed ของ AirAsia จะมีอยู่บนเครื่องรุ่น Airbus A330-300 ครับ ซึ่งก็จะบินในเส้นทางที่ยาวหน่อย อย่าง โตเกียว โอซาก้า นาโกย่า ฟุกุโอกะ ซัปโปโร หรือโซลเป็นต้น
สำหรับคราวนี้ผมบินไฟลท์ XJ606 ออกจากดอนเมือง 11.05 ไปถึงโตเกียว 19.25 ครับ ลงที่ Narita ก็คือเป็นข้อดีข้อเสียสำหรับผม คือขึ้นดอนเมืองใกล้บ้านแต่ ตอนลง Narita ก็นั่งรถไฟเข้าเมืองนานหน่อยครับ
ตอนเช็คอินที่ดอนเมืองก็โล่งดีครับ ที่นั่ง Premium Flatbed จะรวมโหลดกระเป๋า 40 กิโลกรัม และแปะแทค xpress ทำให้ตอนไปถึงกระเป๋าจะออกมาเป็นใบแรกๆ ครับ
ประมาณ 10.25 ก็บอร์ดดิ้งครับ วันนี้โชคดีมีงวงขึ้นเครื่องเลย ไม่ต้องนั่งรถบัสไปขึ้นครับ ที่นั่ง flatbed มีทั้งหมด 6 ที่ เป็น 2 2 2 ทั้งหมด 12 ที่นั่ง ผมนั่ง 1D ก็คือตัวซ้ายมือของตรงกลางครับ ถ้าเดินทางคนเดียว D กับ G จะโอเคเลยครับ เพราะไปห้องน้ำสะดวก
ขึ้นเครื่องแล้วพนักงานต้อนรับก็จะนำน้ำมาให้ 1 ขวดครับ และก็สอบถามว่าเราจะรับอาหารหลังจาก take off หรือก่อน landing ครับ ที่นั่ง flatbed จะได้รับอาหาร 1 กล่อง สามารถเลือกได้ในเว็บก่อนเวลาออก 24 ชั่วโมง แต่ถ้าหากไม่ได้เลือกมาก่อน พนักงานก็จะเลือกให้เราครับ
Take Off ไปแป๊บนึงก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร ผมไม่ได้เลือกมา แต่ก็ได้ทานข้าวมันไก่ลุงโฮอย่างที่อยาก ข้าวนุ่มร้อน มันกำลังดี แห้งๆ อร่อย ชิ้นไก่นุ่ม รสขิงๆ ทานน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานครับ
จากนั้นก็แจกหมอนและผ้าห่ม บนเครื่องไม่มีจอครับ ผมเลยนั่งดูหนังในคอมพิวเตอร์เพื่อย่อยข้าวสักหน่อย และก็สั่งเบียร์มาดื่ม เพื่อให้พอง่วง เผื่อจะหลับ แต่ก็ได้แค่หลับๆ ตื่นๆ
ตัวที่นั่งสามารถปรับเอนได้ แต่ก็ไม่ถึงกับเรียบซักทีเดียวครับ มันจะเอียงๆ ลาดหน่อย คือพอนอนได้ แต่ไม่สบายนัก ถ้าพลิกตัวก็มีโอกาสไหล เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมเลือกบินกลางวัน จะได้ไม่ต้องตั้งใจนอนมากครับ
ราวๆ หกชั่วโมงก็มาถึงสนามบินนาริตะ คราวนี้ไม่มีงวงแล้ว ก็ต้องลงจากเครื่องด้วยบันได แล้วขึ้นรถบัสไปที่ตัวอาคารครับ
ไฟลท์ขากลับที่นาริตะ ตอนเช็คอิน โหลดกระเป๋าก็มีช่องแยกสำหรับ flatbed ตรงนี้สะดวกพอสมควร เพราะคิวที่นั่งปกติค่อนข้างยาวเลยครับ
โดยรวมผมว่าก็เป็นทางเลือกที่ดีครับถ้าได้ในราคาพิเศษ ช่วงโปรโมชั่น ไปกลับไม่เกิน 20,000 บาท ก็น่าลองใช้บริการ แต่ถ้าสูงไปกว่านี้ น่าจะไม่ค่อยคุ้มแล้ว ราคาช่วงปกติเคยเปิดดู บางที สามหมื่นกว่าบาท น่าจะแพงไป ไปบิน Business Class แบบแวะไทเป หรือ ฮ่องกง อาจจะคุ้มกว่าครับ
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาผมมีโปรแกรมการเดินทางไปโตเกียวเพื่อร่วมงาน Mikkeller Beer Celebration Tokyo ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกครับ ตอนที่หาตั๋วอยู่ก็เจอ China Airlines ซึ่งจะแวะพักที่ Taipei พอลองกดดูว่าถ้าพักไทเปซัก 2 คืนจะแพงขึ้นเยอะไหม ปรากฎว่าแพงขึ้นประมาณ 200 บาทเท่านั้น
ก็เลยตัดสินใจจอง China Airlines เพราะส่วนตัวอยากไปเที่ยวไทเปมานานมากแล้ว คราวนี้มีโอกาสก็เลยขอลองหน่อยครับ ซึ่งเวลาออกเดินทางค่อนข้างถูกใจผมคือออกสายๆจากไทย ไปถึงไทเป เย็นๆ แต่พอถึงวันจริงก็รู้สึกว่าเป็นเวลาบินที่ดี แต่ลำบากเรื่องการเดินทางเพราะต้องฝ่ารถติดไปถึงสุวรรณภูมิประมาณ 9 โมง ก็เลยต้องออกแต่เช้ามืดจากที่บ้าน
ตัดภาพมาวันเดินทางหลังจากผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยและต.ม. แล้ว China Airlines มีเลาจน์ของตัวเองให้ผู้โดยสารครับ ขนาดเลาจน์จะเล็กหน่อย แต่ก็พอมีที่นั่ง อาหารและเครื่องดื่มก็มีพอประมาณ
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผมไปสิงคโปร์มานั้น เดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียเหมือนเดิมครับ ราคาไม่แพงและก็ขึ้นที่ดอนเมืองใกล้บ้านผมดี
ก็เลยมีโอกาสได้ลองใช้บริการ Miracle Lounge ที่เพิ่งเปิดใหม่ คือฝั่งต่างประเทศนั้นก่อนหน้านี้มี Miracle Lounge อยู่แล้วครับ แต่อันนั้นดูไม่ค่อยเนี้ยบเท่าไร อาหาร เครื่องดื่มก็นิ่งๆ
ทีนี้อันใหม่จะเดินขึ้นไปชั้นบน ผมใช้สิทธิ์บัตร Priority Pass เข้า พนักงานแจ้งว่าใช้ได้ 2 ชั่วโมง ตัวเลาจน์สว่างดีครับ เพดานสูงโปร่ง วันที่ไปไม่ค่อยมีผู้โดยสารเท่าไหร่ เงียบสงบดี
Continue Reading
ทริปโตเกียวที่ผ่านมา ผมเดินทางด้วยสายการบิน Japan Airlines เช่นเคยครับ ลง Narita กลับ Narita โดยออกเดินทางแต่เช้าทั้งสองไฟลท์ ก็คือไปถึงโตเกียวเย็นๆ ขากลับก็มาถึงกรุงเทพเย็นๆ ส่วนตัวชอบบินเวลาประมาณนี้รู้สึกไม่ง่วงดีครับ
ขาไปไฟลท์ JL708 เป็นเครื่อง Boeing 787 ซึ่งชั้นธุรกิจก็จะเป็นที่นั่งแบบ Shell Flat Neo ซึ่งเส้นทางจากกรุงเทพก็เจอที่นั่งแบบนี้เป็นประจำ อย่างเช่นทริป ซัปโปโรหรือทริปนาโกย่า ของผม ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ
ทีนี้พอขากลับไฟลท์ JL717 ผมก็คิดว่าคงเป็นที่นั่งแบบเดิม เพราะดูใน seatguru ก็เห็นว่าเป็น 787 เหมือนกัน ปรากฎพอขึ้นเครื่อง เป็นที่นั่งแบบ Sky Suite ที่อยากลองมาหลายทีแล้ว เพราะเคยนั่งแต่แบบ Sky Suite III ครับ
ทริปโคเปนเฮเกนคราวนี้ผมเดินทางด้วยสายการบิน Turkish Airlines อีกครั้ง ทำให้มีโอกาสได้ลองเลาจน์ในเครือ Star Alliance คราวก่อนได้เข้าของ Eva Air ไปแล้ว คราวนี้เลยขอลองอีกสายการบิน
นั่นก็คือ Silver Kris Lounge ของ Singapore Airlines ครับ เลาจน์นี้เพิ่งเปิดใหม่ ย้ายมาจากที่เดิม ขนาดใหญ่ขึ้น กว้างขวาง ดูโปร่งสบายดีครับ ที่สำคัญคือเดินใกล้มาก ออกจาก ต.ม. มานิดเดียว ถึงเลย
วันที่ผมไปเป็นวันธรรมดาช่วงหัวค่ำ ผู้โดยสารมีพอประมาณครับ ไม่เยอะมาก เข้ามาก็เดินสำรวจโซนอาหารและเครื่องดื่ม มีให้เลือกรับประทานเยอะดี มีแบบพวกเมนูอาหารสิงคโปร์ อย่าง Lor Mai Gai ให้ลองชิมด้วย ส่วนบาร์นั้น มีเครื่องดื่ม Signature และ คอกเทลธรรมดา สามารถสั่งกับพนักงานในบาร์ได้เลยครับ
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ผมได้เดินทางไปที่เมืองหลวงพระบางครับตอนขากลับจากหลวงพระบางได้มีโอกาสแวะใช้บริการเลาจน์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สด้วย
ที่จริงผมบินด้วยสายการบินไทยสมายล์ แต่เข้าใช้บริการด้วยบัตร Priority Pass ครับซึ่งเจ้าของบัตรสามารถพาแขกเข้าใช้บริการได้อีกหนึ่งท่าน
ขนาดของเลาจน์ไม่ใหญ่มาก เป็นการกั้นโซนขึ้นมาเป็นห้อง ที่นั่งมี ประมาณซัก 40-50 ที่ ภายในมีขนม และเครื่องดื่มให้บริการ แต่ไม่มีอาหารหนักแบบข้าวอะไรอย่างนี้ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่มีเช่นกันครับ
จาก Plaza Premium Lounge ผมเดินยาวข้ามจากฝั่งปีก A มายัง ปีก B เผื่อจะมาใช้งาน SilverKris Lounge ของ Singapore Airlines ครับ
เป็นหนึ่งในเลาจน์ที่อยากลอง เพราะไม่เคยใช้บริการเลย เที่ยวนี้บินด้วย Turkish Airlines ซึ่งอยู่ในเครือ Star Alliance เหมือนกัน ก็เลยได้สิทธิ์เข้าใช้ครับ
ตัวเลาจน์ขนาดไม่กว้างมาก แต่เป็นแนวลึกยาวเข้าไป ตกแต่งด้วยสีโทนดำ น้ำตาล และทอง ซึ่งเป็นโทนสี ของ Singapore Airlines นั่นเองครับ เก้าอี้นี่สีเดียวกับบนเครื่องบินเลย
นอกจาก Sakura Lounge แล้ว ผมได้เข้าไปใช้บริการ Star Alliance Lounge ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันด้วยครับ คือจาก Immigration เลี้ยวไปทางขวาแล้วก็ลงลิฟต์ ออกจากลิฟต์ก็จะเจอเลยครับ
ที่นี่ถ้านั่ง Business Class สายการบินในเครืออย่าง การบินไทย หรือ ANA ก็จะสามารถเข้าใช้บริการได้ฟรีครับ ส่วนผมเข้าด้วยบัตร Priority Pass ครับ วันที่ไปคนเข้าคิวรอลงทะเบียนเข้าใช้เยอะ พอสมควร
เข้ามาด้านในก็จะเป็นที่นั่งยาวตามแนวกระจกเข้าไปด้านใน มองเห็นเครื่องบินที่กำลังตระเตรียมก่อนบินอยู่ ภายในวันนี้มีผู้โดยสารเยอะเลยครับ