เช็คอิน เก็บข้าวของที่โรงแรมหุ่นยนต์ Henn na Hotel เสร็จก็เดินทางเข้า Huis Ten Bosch ครับ การที่เราพักโรงแรมในเครือทำให้ได้ลดค่าเข้าด้วย บัตรที่ซื้อเป็นแบบวันครึ่ง คือวันแรกเข้าช่วงบ่าย ส่วนวันที่ 2 ถึงจะเข้าเต็มวัน
มาคราวนี้เป็นครั้งที่ 2 ของผม ก็เลยจะไม่เล่าซ้ำ แต่จะเล่าถึงโซนหรือกิจกรรมใหม่ที่เจอ ยังไงแนะนำให้ไปอ่านของทริปปี 2014 เพิ่ม เพื่อให้ได้ข้อมูลครบๆ ครับ (ตอนแรกและตอนจบ) คราวนี้นอน 2 คืนเลยไม่รีบร้อนมากครับ
ได้เดินดูไฟจนค่ำ ได้ดูพลุในคืนที่ 2 ด้วย สวยงามดี แต่ฝนลงหนักมากๆ แล้วเค้าห้ามกางร่ม ต้องไปซื้อเสื้อฝนมายืนดู สำหรับพลุนี่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ เค้าจัดตรงฝั่งที่เคยมีเรือ One Piece อยู่ ตอนนนี้ไม่มีแล้ว อีกอย่างก็คือได้เดินที่ร้านขายของที่ระลึกเต็มอิ่มเลย
ราคาตั๋วค่าเข้าครับ ผมพักโรงแรมในเครือ Huis Ten Bosch เลยได้ราคาพิเศษครับ
วิวตอนกลางคืนก็สวยงามดี
ประดับไฟหยดๆและลูกโป่ง
โซนบ้านผีสิงมีแสดง illumitaion มีเพิ่มเติมจากคราวที่แล้วคือการฉายกราฟิกลงไปบนตึกเลย
ห้องน้ำโซนบ้านผีสิง โหดอย่างนี้
คลองมีไฟเปลี่ยนได้อยู่ สวยมากครับ
มีเรือด้วย
มาอีกโซนเป็นฝั่งแสดงไฟเยอะๆ
จัดเรียงเป็นสวน
เค้าทำที่ขึ้นไปถ่ายรูปจากมุมสูงไว้ให้ด้วย
ทำให้เก็บภาพได้มุมกว้างขึ้นครับ
สวยงาม
อันนี้เพิ่งมีไม่นานคือ น้ำตกจากหอคอย Domtoren
มาอีกโซนเจอคนเต้นระบำกันอยู่ครับ
ก่อนจะไปดูพลุแวะกินอะไรรองท้องก่อน
เป็นร้านยากิโทริ หรือไก่เสียบไม้ย่างครับ
เค้าใส่ไว้ในกล่องแบบนี้
เราสั่งแล้วก็จะเอาไปอุ่นให้
รสชาติพอได้ครับ
พลุจะจะแสดง 2 ช่วงครับ จบช่วงแรกก็จะพัก 10 นาทีได้แล้วแสดงต่อ
พลุ Huis Ten Bosch
พลุ Huis Ten Bosch
พลุ Huis Ten Bosch
พลุ Huis Ten Bosch
พลุ Huis Ten Bosch
พลุ Huis Ten Bosch
ก่อนทางออกจะเป็นร้านขายของที่ระลึกชื่อ Schiphol ซึ่งตั้งเหมือนสนามบินที่ฮอลแลนด์นั่นเองครับ
ของฝากของที่ระลึกเพียบเลยครับ คราวก่อนไม่ได้ดูเลย ต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟ คราวนี้ค้างขอเดินให้เต็มที่หน่อย
โซนนี้ขายเบียร์
มีเบียร์ Huis Ten Bosch ด้วย
ติดกันเป็นไวน์
หรือจะรับเป็นเหล้าญี่ปุ่น
โซนของกินครับ
ซุปและบะหมี่ต่างๆ
ไส้กรอกต่างๆ
ชีสก็เยอะครับ
ชีสอีกตู้นึง
ชอคโกแลต
ขนมกล่องสีสวยเลย
เจอกันใหม่คราวหน้าครับ