ทริปโตเกียวเมื่อช่วงสิ้นปี 2016 นั้นผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมโรงสาเก Ishikawa มาครับ ตัวโรงอยู่ที่เมือง Fussa ออกจากใจกลางโตเกียวไปประมาณ 50 กว่ากิโลฯ นั่งรถไฟสาย Chuo ออกไปทางตะวันตกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็จะถึงสถานี Haijima ครับ จากสถานีโรงอยู่ห่างประมาณ 1 กิโลเมตรจะเดินหรือ taxi ก็ได้
สำหรับโรงสาเก Ishikawa นี้ เป็นหนึ่งโรงที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะออกไม่จากตัวเมืองไม่ไกล แล้วก็เป็นโรงที่มีประวัติยาวนาน เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1863 ซึ่งยังคงดำเนินการโดยตระกูล Ishikawa รุ่นที่ 18 ครับ สืบทอดจากบรรพบุรุษมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน
ทางโรงนั้นเปิดให้คนนอกสามารถเข้าเยี่ยมชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องแจ้งมาล่วงหน้า คณะของเราได้ลองติดต่อทางเมลแล้วแต่เค้ายังไม่ทันตอบ ก็เลยเดินทางมาลุ้นเอา มาถึงตอนแรกก็เงียบๆ นึกในใจว่าคงอดแน่ๆ คุยไปคุยมามีฝรั่งเค้าติดต่อมาเยี่ยมชม 1 คู่ พวกเราก็เลยโชคดี เพราะทางเจ้าหน้าที่ให้ร่วมเป็นกรุ๊ปเดียวกันไปครับ
บริเวณทางเข้าโรงสาเก Ishikawa
ฝั่งตรงข้ามเป็นที่จอดรถ มีหม้อหุงข้าวไม้ขนาดยักษ์ตั้งโชว์อยู่
เข้ามาภายในบริเวณของโรง ตัวอาคารที่เห็นคือห้องหลักที่ใช้ผลิต
แผนผังภายในบริเวณโรงสาเก Ishikawa
ฝั่งซ้ายเป็นทางเดินเข้าไปยังส่วนของร้านขายของ ร้านอาหาร และโรงเบียร์ครับ
ซึ่งก็จะเดินผ่านต้นไม้คู่ต้นใหญ่ อายุนับร้อยปี เจ้าหน้าที่เล่าว่า เป็นต้นไม้ชายและหญิงคู่กัน
พอถึงเวลา เจ้าหน้าที่ก็แนะนำตัวเล่าประวัติต่างๆของโรงสาเกแล้วก็พากลุ่มของเราเข้าไปในตัวอาคารครับ ชาวต่างชาติสองคนที่ผมเล่า คนผู้หญิงพูดไทยได้ด้วยเพราะมาเป็นครูอยู่เชียงใหม่
ถังหมักสาเก
หน้าโรงจะมีลูกกลมๆ ห้อยอยู่ มีชื่อว่า Sugidama เป็นใบสนที่ทางโรงจะแขวงเอาไว้เมื่อบรรจุสาเกเสร็จ พอใบกลายเป็นสีน้ำตาลก็แปลกว่าสาเกนั้นบ่มจนได้อายุพร้อมที่จะขายแล้วครับ
เดินต่อมาก็จะเจอท่อไม้ไผ่ เป็นลำที่มาจากใต้ดิน ใช้ในการผลิตสาเกครับ
ฝั่งขวามือเป็นร้านขายของ ก็จะมีเบียร์และสาเกขายอยู่ เดี๋ยวเราวนกลับอีกทีตอนก่อนกลับ
ติดกันเป็นหม้อหุงข้าวขนาดยักษ์ ที่ต้องมีหม้อหุงข้าวเพราะ สาเกนั่นผลิตจากข้าวที่หุงสุกแล้วนั่นเองครับ
ลึกเข้าไปอีกฝั่งขวาเป็นบ้านของตระกูล Ishikawa เจ้าของโรงสาเกแห่งนี้
ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นห้องอาหาร วันนี้ปิดครับ
ด้านในสุดจะเป็นส่วนที่ต้มเบียร์ครับ
มีรถโบราณจอดอยู่ข้างหน้า
แล้วก็มีพวกถัง keg เบียร์สดตั้งอยู่ แต่บริเวณที่ต้มไม่ได้ให้เข้าชมครับ
ด้านหน้าของห้องต้มเบียร์ยังมีต้นไม้เก่าแก่อยู่อีกหนึ่งต้น
ติดกันนั้นเป็นหม้อต้มเบียร์โบราณครับ
มีศิลปะนูนสูงแปะอยู่ด้านบน เป็นขั้นตอนกรรมวิธีผลิตเบียร์
ตั้งแต่เก็บเกี่ยว การต้ม การหมัก
หลังจากนั้นก็ถือว่าเสร็จการทัวร์ ทีรี้เจ้าหน้าที่ก็พาเรากลับมาที่หน้าโรงสาเกอีกครั้งแล้วเปิดให้เราชิมสามตัวครับ
ตัวพิเศษทำเพื่อต้อนรับปี 2020 ที่ญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก
แล้วก็เข้ามายังร้านค้าของตัวโรงครับ มีทั้งเบียร์และสาเกขาย
ตู้นี้เป็นสาเก
มีหลายแบบให้เลือกครับ
เบียร์ยี่ห้อ Japan Beer มีต้นกำเนิดตั้งแต่ปี 1888 แต่ตอนนั้นไม่ประสบความสำเร็จก็เลยปิดตัวไป เพิ่งกลับมาทำใหม่อีกครั้งเมื่อตอนปี 1998 ครับ
ทำออกมาหลายสไตล์เลย อย่างตู้นี้เป็น Pilsner
เบียร์ดำ Dunkel และเบียร์ Blueberry
ก่อนกลับก็แวะซื้อสาเกเอากลับมาทานที่ไทยอีก 2-3 ขวดครับ เป็นตัวที่เค้าเอามาให้ชิมนั่นเอง นุ่มละมุน หอมดื่มง่าย สำหรับใครที่สนใจสาเกเป็นโรงที่น่าแวะมาเลยครับ เดินทางค่อนข้างสะดวก ได้รู้ขั้นตอนกระบวนการทั้งหมดเกี่ยวกับการทำสาเก แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าไปก่อนนะครับ ไม่งั้นอาจจะอดเข้าชมครับ ตัวร้านอาหารเค้าว่าเด็ด แต่ต้องจองเช่นกันครับ
Ishikawa Sake Brewery เมือง Fussa
เบอร์ : +81 42-553-0100
เปิด : 10.00-18.00
เว็บไซต์
เพจ
foursquare