Craft Beer

Oud Beersel โรงเบียร์เปรี้ยวสไตล์ Lambic ชานเมือง Brussels – ประเทศเบลเยี่ยม

602 views |

โปรแกรมที่ 2 ของเราหลังจากที่ทานมื้อเที่ยงอย่างอิ่มหนำที่ร้าน ‘t Brouwershuis ของ โรงเบียร์ Palm เราเดินทางลงทางใต้เพื่อไปอีก 1 โรงครับ โรงนี้เป็นแบรนด์ที่มีขายในไทยอยู่ซักพักแล้ว เป็นสายเบียร์เปรี้ยว โดยชื่อโรงก็ตั้งตามชื่อเมืองที่ตั้ง โรงนี้มีชื่อว่า Oud Beersel ครับ

Oud Beersel เป็นอีกหนึ่งโรงที่มีอายุเก่าแก่ ก่อตั้งเมื่อปี 1882 โดย Henri Vandervelden และก็เป็นกิจการของตระกูลยาวนานมาประมาณ 100 กว่าปี แล้วก็เปลี่ยนมือมาถึงหลานชาย จนปี 2002 โรงเบียร์ก็หยุดกิจการไปด้วยปัญหาทางด้านการเงินครับ

ทีนี้คุณ Gert Christiaens นั่งดื่มเบียร์ Oud Beersel อยู่ที่บาร์ใน Brussels ก็ได้รับการบอกกล่าวจากเจ้าของร้านว่า มาคราวหน้าคงจะไม่ได้กินแล้วนะ เพราะโรงเค้ากำลังจะปิดกิจการ ด้วยความชื่นชอบในเบียร์และไม่อยากให้โรงเบียร์จะต้องหยุดไปมา ก็เลยมาคุยกับ Brewmaster ของโรงในขณะนั้น (เป็นรุ่นที่สามของ Brewmaster ประจำโรง) เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเบียร์ รวบรวมเงินมาซื้อกิจการ โดยผลิตเบียร์ Bersalis Tripel และ Bersalis Kadet จากโรง Huyghe Brewery เพื่อจำหน่ายและนำรายได้มาดำเนินกิจการของโรง Oud Beersel ครับ (Bersalis เป็นภาษาลาตินของคำว่า Beesel) เนื่องจากตอนนั้นธนาคารไม่ให้กู้เงินมาลงทุน เพราะว่าเป็นช่วงที่เบียร์แลมบิคไม่ได้รับความนิยมเท่าสมัยก่อน (ก่อนจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เบียร์สไตล์หลัก Oud Beersel ที่ผลิตจะเป็น Lambic ซึ่งเป็นเบียร์เปรี้ยวสไตล์เบลเยี่ยม มีกลิ่น รส สัมผัสอันซับซ้อน มีตัว Oude Geuze ที่นำเบียร์ Lambic จากหลายถัง หลายอายุการบ่มมาเบลนด์รวมกัน ซึ่งกว่าจะมาถึงผู้ดื่มนั้นก็อาจจะกินเวลาสามปีครึ่งถึงสี่ปี นอกจากนี้ก็จะมีตัวที่นำราสเบอรี่มาหมักด้วย (Framboise) และยังมีตัวพิเศษ ตัวลิมิเต็ดที่ออกเป็นครั้งคราวอีกหลายตัวครับ 

ตอนที่มาถึงโรงคุณ Gert Christiaens เจ้าของก็ออกมาต้อนรับพวกเรา รวมถึงภรรยาและคุณพ่อด้วย เราเริ่มจิบกันที่บาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในร้านขายเบียร์ของโรง แล้วก็เริ่มทัวร์ โดยเข้าไปที่ห้องบ่ม มีถังบาร์เรลอยู่เต็มไปหมด เป็นถังไม้เก่าแก่ ขนาดค่อนข้างใหญ่ ตอนแรกเป็นถังโบราณ พอไปอีกโซนก็เป็นถังใหม่ ซึ่งคุณ Gert ก็ได้กดเบียร์สดๆ จากถังหมักให้พวกเราได้ชิมด้วย

เสร็จก็เดินออกไปที่โซนด้านหลังโรงที่คุณ Gert เพิ่งซื้อที่มาไม่นานและกำลังทดลองปลูกเชอรี่อยู่ เป็นเนินเขาที่ลาดลงไปเล็กน้อยครับ เดินสำรวจเสร็จก็กลับมาที่เตนท์ที่นำมาเตรียมไว้ เพราะทางโรงกำลังจะจัดงานประจำปี แต่พวกเราแอบมาก่อน ฮ่าๆ

แล้วเบียร์หลายตัวก็ถูกยกออกมาเรียง ให้สมาชิกทุกท่านได้ลองชิม มีตัวพิเศษที่ใส่กุหลาบลงไป ได้ฟังเรื่องบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่คล้ายๆ ไวน์กล่อง แต่สามารถเก็บความซ่าได้ด้วย นั่งจิบไป ฟังไปอยู่เป็นเวลานานแต่บรรยากาศก็ชิลล์มากครับ เย็นสบาย พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบคุณครับฟ้า

 

เรามาถึงที่ Oud Beersel ช่วงบ่ายแก่ๆ ฟ้าเริ่มใส

มีแปะเว็บไซต์ของโรงอยู่ด้านหน้า

เพลทโลหะโลโก้ของโรงครับ

อันนี้น่าจะเป็นป้ายดั้งเดิม

เข้ามาปุ๊บก็จะเป็นส่วนร้านค้าครับ มีเบียร์ขายเกือบทุกตัวของโรง

กึ่งๆ ร้าน กึ่งๆ โกดัง

ราคาเบียร์

มีเสื้อยืดขาย ตัวสีดำผมอยากได้แต่ไม่มีไซส์ อดครับ

ด้านในร้านเป็นบาร์เล็กๆ คุณ Gert กำลังกดเบียร์สดแจกพวกเรา

มีจัมป์ไว้ทั้งหมด 3 ตัว

เสิร์ฟเป้นตัวแลมบิคธรรมดาครับ เปรี้ยวกำลังดี มีฝาดแทนนินหน่อย รีเฟรชชิ่งดี

จากนั้นก็เริ่มทัวร์ โดยเข้าไปในห้องเก็บถังบาร์เรล แล้วคุณ Gert ก็เล่าเรื่องราวที่มาว่ามาเป็นเจ้าของได้ยังไง

ถังในชั้นล่างนี้ค่อนข้างเก่าแก่เลยครับ

บรรยากาศในห้องบ่ม

ถังนี้เอจสามปีแล้วครับ

มาอีกชั้นเป็นส่วนกึ่งๆ พิพิธภัณฑ์ ที่แสดงอุปกรณ์ต่างๆ อันนี้เป็นเครื่องทำความสะอาดถังครับ

รูปแสดงการจุดซัลเฟอร์เพื่อฆ่าเชื้อในถังบาร์เรล

ขั้นตอนการทำความสะอาด

ภาพวาดการทำถังบาร์เรล

มาที่อีกชั้นเป็นห้องด้านบน มีถังบาร์เรลใหม่ๆ

สัญลักษณ์นี้ ทีแรกผมก็สงสัยเลยสอบถามว่าคืออะไร มันคือโลโก้ของแบรนด์ที่วาดแบบง่ายๆ เพื่อแสดงว่าถังนี้เป็น Lambic

โลโก้ของแบรนด์ Oud Beersel

ได้ชิมสดๆ จากถังเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 ด้วยครับ

ถังนี้เป็นถัง Port Wine จากโปรตุเกส ที่มีอายุเก่าแก่ 60-120 ปีครับ ความพิเศษของถังนี้คือจะวนๆ กันไปตามโรงผลิตเบียร์ Lambic ในเบลเยี่ยมครับ ไม้จะบางหน่อยทำเบียร์จะคมกว่า

ส่วนถังนี้เป็นถังไวน์แดงจาก ชาโตเนิฟดูป๊าป ฝรั่งเศส ซึ่งถังนี้จะไม้หนาให้รสที่นุ่มนวล

ถังไซส์เล็กจากฝรั่งเศสครับ

อีกห้องมีแก้วเบียร์โชว์อยู่และทำให้ได้ความรู้ว่าที่แก้ว Lambic จะต้องก้นหนานั้นเพราะสมัยก่อนเค้าจะมีการใส่น้ำตาลลงไปแล้วใช้เหล็กกระเทาะน้ำตาลให้ละลาย ถ้าไม่หนาก็จะแตกได้ ส่วนที่ใส่น้ำตาลลงไปเพิ่มก็เพิ่มให้เบียร์ทานง่ายขึ้น

ที่มาของดลโก้แบรนด์คือปราสาท Beersel หรือในภาษาดัทช์ว่า Kasteel van Beersel ซึ่งอยู่ห่างขึ้นไปทางเหนือจากโรงประมาณ 1 กิโลเมตรครับ

หน้าตาของแบบจำลองปราสาท

เสร็จแล้วเราก็ออกกันมาที่ด้านนอกโรงครับ มาที่ด้านหลังของงโรงเป็นลานโล่ง ลาดลงไปตามแนวเขา

มีเตนท์ตั้งไว้เพื่อเตรียมจัดงาน เราก็เลยได้นั่งชิมเบียร์กันแบบเอาท์ดอร์ครับ

เรียงรายรอให้เราได้ชิมกันเพียบๆ มีตัว Bersalis ที่เป็นตัวหาทุนมาสร้างโรงในปัจจุบันด้วยครับ

ตัว Rozen Lambiek ที่ใส่กุหลาบลงไปด้วยมาในกล่องแบบนี้

ภายในเป็นบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ชื่อ Beer Box ที่สามารถเก็บความซ่าไว้ได้ด้วย

รินให้ทุกคนได้ชิมกันครับ ผมจิบแล้วก็ได้กุหลาบบางๆ ตัวเบียร์ค่อนข้างดราย ออกฝาดนิดหน่อย

อีกตัวที่ชิมคือ Oude Vieux Faro เป็น Lambic ที่มาการเติม Candy Sugar ลงไปเพิ่ม ตัวนี้หวานนิด ละมุน ดื่มง่าย ไม่เปรี้ยวมากครับ

คุณ Gert แนะนำวิธีการริน Lambic ที่เมื่อเปิดแล้วควรจะเอียงตลอดไม่ให้ตะกอนก้นขวดลงมาในแก้วด้วย

เสร็จเราก็กลับมาที่ห้องขายของเพื่อซื้อเบียร์และขอที่ระลึกกันครับ เป็นอีกหนึ่งโรงที่เต็มอิ่ม ได้พูดคุยสอบถามเรื่องความรู้ต่างๆ จากเจ้าของแบรนด์เอง สนุกสนานและคุ้มค่ามากๆ

ทางโรงเปิดให้สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ โดยต้องจองผ่านทางเว็บไซต์ของโรงครับ ถ้ามาเที่ยว Brussels แล้วสนใจก็ลองติดต่อไปดู เพราะค่อนข้างใกล้ ประมาณ 10 กว่ากิโลจากตัวเมืองเท่านั้นครับ

You Might Also Like


แสดงความคิดเห็น



WP Twitter Auto Publish Powered By : XYZScripts.com