สายการบิน

รีวิว Business Class สายการบิน China Airlines กรุงเทพ – ไทเป – โตเกียว

11,511 views |

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาผมมีโปรแกรมการเดินทางไปโตเกียวเพื่อร่วมงาน Mikkeller Beer Celebration Tokyo ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกครับ ตอนที่หาตั๋วอยู่ก็เจอ China Airlines ซึ่งจะแวะพักที่ Taipei พอลองกดดูว่าถ้าพักไทเปซัก 2 คืนจะแพงขึ้นเยอะไหม ปรากฎว่าแพงขึ้นประมาณ 200 บาทเท่านั้น

ก็เลยตัดสินใจจอง China Airlines เพราะส่วนตัวอยากไปเที่ยวไทเปมานานมากแล้ว คราวนี้มีโอกาสก็เลยขอลองหน่อยครับ ซึ่งเวลาออกเดินทางค่อนข้างถูกใจผมคือออกสายๆจากไทย ไปถึงไทเป เย็นๆ แต่พอถึงวันจริงก็รู้สึกว่าเป็นเวลาบินที่ดี แต่ลำบากเรื่องการเดินทางเพราะต้องฝ่ารถติดไปถึงสุวรรณภูมิประมาณ 9 โมง ก็เลยต้องออกแต่เช้ามืดจากที่บ้าน

ตัดภาพมาวันเดินทางหลังจากผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยและต.ม. แล้ว China Airlines มีเลาจน์ของตัวเองให้ผู้โดยสารครับ ขนาดเลาจน์จะเล็กหน่อย แต่ก็พอมีที่นั่ง อาหารและเครื่องดื่มก็มีพอประมาณ

พอถึงเวลาก็มาขึ้นเครื่อง ทั้ง 4 ไฟลท์ที่นั่งผมได้นั่ง Airbus A350 ทั้งหมดครับ โดยชั้น Business Class ของเครื่องรุ่นนี้จะจัดที่นั่ง 1-2-1 ผมได้นั่ง ริมหน้าต่าง และที่นั่งตรงกลาง สำหรับที่นั่งผมว่าเป็นส่วนตัวดี สามารถปรับราบได้ 180 องศา ซึ่งก็หลับสบายดี บริการของพนักงานสุภาพเรียบ ส่วนอาหารก็โอเค รสชาติใช้ได้ครับ

ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงไทเป ผมนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง นอนไปสองคืน เช้าอีกวันก็มาสนามบินด้วยรถไฟฟ้าเหมือนเดิม ไฟลท์ไปโตเกียวก็ปกติและเรียบร้อยดี

เข้าประตูหมายเลข 9

ที่สุวรรณภูมิเคาเตอร์อยู่ที่แถว S ครับ

ช่อง Business Class ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่

ตั๋วเดินทางพร้อมบัตร Premium Lane และ บัตรเข้าเลาจน์

เราออกเดินทางจากเกต D4 ครับ

เป็นเครื่อง Airbus A350

บรรยากาศในชั้นธุรกิจ China Airlines Airbus A350

บรรยากาศภายในชั้น Business Class

บรรยากาศภายในชั้น Business Class

ที่นั่งข้างๆ ผมครับ

ที่นั่งหมายเลข 10K แถวหน้าสุดฝั่งขวามือครับ ความแปลกอย่างนึงของ China Airlines คือจะมี Belt แบบคาดอกด้วยซึ่งพนักงานจะแจ้งให้คาดทั้งตอนขึ้นและลงครับ

ที่นั่งหมายเลข 10G

เสิร์ฟน้ำส้มและขนม ก่อนเทคออฟครับ

หน้าจอแสดงแผนที่

น่าจะแถวๆ สมุทรปราการครับ

ที่นั่งสามารถปรับนอนราบได้ 180 องศา

มี Wifi แต่เสียเงิน

โคมไฟข้างที่นั่ง

ที่วางขา

ปุ่มปรับเก้าอี้เป็น touch screen

Controller

ช่องปลั๊กแบบ Universal และ USB

ช่องหูฟังและ USB อีกช่อง

ผมสั่งจินโทนิคมาจิบระหว่างรออาหารครับ

รายการอาหาร

รายการเครื่องดื่ม

ไวน์

ไวน์

ไวน์

ขนมปังหนึบเหนียว

แซลมอนรมควัน เนื้อนุ่มรสเค็มมัน มาพร้อมกับผักย่างเย็นๆ ด้านล่างคือมะเขือเทศใส่มายองเนส ส่วนปลาเทราต์เค็มจัด

จานหลักเป็นเนื้อตุ๋น เปื่อยๆ แต่เหนียวครับ รสเค็มหวาน ขิงๆ มีผักเป็นเห็ดกับต้นหอม เสิร์ฟมากับเส้นบะหมี่หนานุ่ม ลวกมาหนึบๆ ฝั่งซ้ายเป็นผักคลุกน้ำมันงา อุ่นๆ

มื้อนี้ทานกับไวน์แดงครับ

ผลไม้สด

กาแฟดำ

และไอศครีม Haageb Dazs

ภายในห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ

สามชั่วโมงนิดๆ ก็ลงจอดที่สนามบิน Taoyuan ครับ

เครื่องของ Chiana Airlines เพียบๆ

สองวันต่อมาผมออกเดินทางจากโรงแรมแต่เช้า เพื่อเดินทางไฟลท์ CI104 เวลาประมาณ 12.45 ครับ

บรรยากาศที่หน้าเคาเตอร์

ตั๋วและบัตรเข้าเลาจน์

ออกที่เกต D5 ครับ

เป็น Airbus A350 เช่นกัน

บรรยากาศภายในชั้น Business Class

คราวนี้ย้ายมาฝั่งซ้ายครับเป็นที่นั่ง 10A

ผมจิบน้ำส้มเหมือนเดิม

ระหว่างที่ถอย

ผ่านโกดังของ China Airlines

หน้าจอ

จิบจินโทนิคเช่นเคยครับ

รายการอาหารครับ ลิสต์ไวน์เหมือนกันทุกไฟลต์

หน้าตาอาหารกลางวัน

ขนมปังไฟลท์นี้นุ่มดี

จากเรียกน้ำย่อยเป็นอกเป็ดควันๆ เสิร์ฟมาเย็น เนื้อนุ่มดีครับ ด้านในเป็นไส้อโวคาโดเนียนๆ ทานคู่กับพริกหยวก กระเจี๊ยบ กรุบเย็น

สลัด ผักเย็นกรอบ มีเนื้อสัตว์เป็น iberico โรยด้วยมะเขือเทศแห้ง

จานหลักเป็นเนื้อแก้มวัวครับ เปื่อยนุ่ม มีคาวนิดๆ แต่ก็อร่อยดี ทานคู่กับมันฝรั่งและฟักทองนุ่มอุ่นๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับซุกกินี่อบกับชีสเบคอน

เมฆหนา สวยงาม

ลงจอดที่สนามบินนาริตะ

ฝนลงปรอยๆ

เครื่อง Japan Airlines จอดเรียงรายกันครับ

มาถึงวันกลับ เที่ยวบินจะออกตอนเย็นจาก Narita บินไป Taipei พักประมาณ ชั่วโมงนิดๆ แล้วขึ้นไฟลท์ 4 ทุ่มกว่ากลับไทย แต่ปรากฎว่าไม่เป็นไปตามแผนครับ พอใกล้ถึงเวลา boarding พนักงานประกาศว่าจะดีเลย์ ให้รอฟังข้อมูลเพิ่มเติมอีกครึ่งชั่วโมง พอถึงเวลาพนักงานประกาศซ้ำว่าให้รออีกครึ่งชั่วโมง

ในใจตอนนี้ผมเริ่มไม่เป็นสุขแล้วครับ เพราะคิดว่ามีโอกาสตกเครื่องไฟลท์กลับไทย พยายามสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าสามารถย้ายไปอีกไฟลท์ของ China Airlines ได้ไหม เพราะยังดูมีลุ้นที่อาจจะกลับไทยทัน ได้รับคำตอบว่าเครื่องเต็ม ต้องรอเครื่องเดิมไม่สามารถเปลี่ยนไฟลท์ให้ได้

สุดท้ายเครื่องดีเลย์รวม 2 ชั่วโมงได้ ผมก็ทำใจแล้วว่าตกเครื่องแน่ คงต้องนอนโรงแรม บินออกมาได้ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงระหว่างที่หงุดหงิดเรื่องตกเครื่องกลับไทย ปรากฎเครื่องบินผ่าน turbulence สั่นอย่างรุนแรง แรงจนแอร์โฮสเตจ ต้องกลับมารัดเข็มขัดด้วย คือในชีวิตผมนั่งเครื่องแล้วเสียวมากที่สุดคือนั่งไปสิงคโปร์ ไฟลท์นั้นบินๆ อยู่มันตกวู้บลงมาเยอะๆ เหมือนรถไฟเหาะ

แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป มันเป็นเครื่องสั่น แบบสั่นไม่หยุด ไม่จบเสียที ยาวนานมาก เป็น 20 นาทีผมใจหายใจคว่ำมาที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตครับ จนผ่านไป บินต่อแบบลุ้นๆ อีกประมาณ ชั่วโมงนิดๆ แล้วก็ถึงไทเปเกือบๆ เที่ยงคืน พนักงานมายืนต้อนรับที่ตรงทางออกจากเครื่องพร้อมแจ้งข่าวดีว่า คืนนี้ต้องนอนที่ไทเปและกลับไทยในวันรุ่งขึ้น ไฟลท์ 7.20 ทางสายการบินได้จัดที่พักให้คือโรงแรมโนโวเทลที่ติดอยู่กับสนามบิน

โดยผู้โดยสารที่ตกไฟลท์กลับไทยมีผมกับคุณพี่นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น 2 คน ซึ่งเราสองคนก็คิดตรงกันว่าไม่อยากออกไปนอนโนโวเทล เพราะต้องผ่าน ต.ม. ออกไป แล้วตอนเช้าก็ต้องรีบตื่นมาผ่าน ต.ม. เข้าสนามบินอีก ถ้าออกไปคงจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงอยู่ดี คุณพี่เลยช่วยกันโวยกับหมวยกราวนด์สาวของChina Airlines จนสุดท้ายก็ได้นอนในห้องพัก ของ Premium Plaza Lounge ห้องก็โอเคครับ มีห้องน้ำรวมอยู่ข้างนอก มีอาหารให้รับประทาน

ขึ้นที่เกท 72 เวลาเขียน 18.20 แต่ได้ออกจริงประมาณ 20.20 ครับ

บรรยากาศในชั้น Business Class เป็น A350 เหมือนกันแต่หน้าตาต่างกันนิดหน่อย

ที่นั่ง

โคมไฟก็ต่างกันเล็กน้อย

จอก็ต่างกันครับ

จอทัชสกรีนปรับพนัก

จินโทนิค

รายการอาหาร

หน้าตาอาหารมื้อนี้ครับ

ทานกับไวน์แดง

ขนมปังนุ่ม มีเนื้อมะกอกดำผสม อร่อยดีครับ

เมนูเรียกน้ำย่อย เป็นแซลมอนรมควัน เนื้อนุ่มหนึบ เสิร์ฟมาเย็นๆ ข้างล่างเป้นมันบดเนื้อเนียนด้านบนโรยด้วยไข่ปลากรุบๆ ทานกับมะเขือเทศเชอรี่เย็นๆ และแตงดอง

แฮมนุ่มเค็มกำลังดี เย็น ทานกับเมลอนหวานเจี๊ยบ

จานหลักเป็นเนื้อส่วน Tenderloin หนึบๆ สุกไปนิดนึงครับ ทานกับมันบดเนื้อเนียนๆ รสหวานหน่อย

ไอศครีม Haagen Dazs

บนหน้าจอยังหลอกให้เราดีใจว่าจะได้นั่งเครื่องกลับกรุงเทพ ทั้งๆ ที่เลยเวลาไปเยอะมากแล้ว

พอลงมาก็มีเจ้าหน้าที่มาต้อนรับและแจ้งข่าวว่าต้องนอนหนึ่งคืน โดยที่แรกจะให้ออกไปนอนโนโวเทล คุยไปคุยมา ก็ได้นอนที่  Plaza Premium Lounge ในสนามบินครับ

ได้นอนที่นี่แทน

หน้าห้องนอนเป็นทางยาวๆ แบบนี้

ภายในห้องพักครับ พอนอนได้ ไม่ลำบากมาก

เช้าพนักงานก็มาเคาะประตูปลุกตอนเวลาที่เราแจ้งไว้ได้นอนไปประมาณเกือบ 5 ชั่วโมง ผมอาบน้ำเสร็จ ก็มากินก๋วยเตี๋ยวเนื้อในเลาจน์ อีกรอบ คือเหมือนกับสวรรค์กลั่นแกล้งว่า อยากกินนักใช่ไหมไอ้ก๋วยเตี๋ยวเเนื้อไต้หวันเนี่ย งั้นตกเครื่องกินอีกมื้อให้หายอยากละกัน ฮ่าๆ

สุดท้ายก็ขึ้นเครื่องกลับไทยตอน 7 โมงนิดๆ ยังได้กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับแบบแห้งอีกรอบ เอาให้สะใจไปเลย ฮ่าๆ

ออกที่เกท D1

Airbus A350 เช่นเคยครับ

บรรยากาศในชั้น Business Class

ไฟลท์นี้ผมได้มานั่งตรงกลาง ค่อนมาด้านหลังครับ

บรรยากาศภายในชั้น Business Class

ที่นั่งไฟลท์นี้

รายการอาหารครับ

หน้าตาอาหารมื้อเช้าวันนี้

ครัวซอง

มูสลี

จานหลักเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นแบนๆ ราดหน้าด้วยเนื้อไก่ครับ เส้นหนึบอร่อยดีครับ หน้าตาแปลกดี

ไข่ต้ม รสเค็มหวาน หอมยาจีน

ผลไม้

นั่งดู hobbit ได้นิดเดียวก็ถึงสุวรรณภูมิครับ


โดยรวมถ้าไม่นับเรื่องดีเลย์จนตกเครื่อง ผมก็รู้สึกโอเคและประทับใจ
China Airlines ครับ เครื่องใหม่ อาหารโอเค พนักงานสุภาพ บริการดี แต่พอเจอเรื่องดีเลย์ก็เลยแหยงๆ ไปเหมือนกันครับ

You Might Also Like


แสดงความคิดเห็น



WP Twitter Auto Publish Powered By : XYZScripts.com