โปรแกรมวันที่ 5 ของเรา จะเดินทางไปทางทิศตะวันตกอีก 120 กิโลเมตร นั่งรถไฟราวๆ 2 ชั่วโมง 20 นาที ได้ครับ จุดหมายของเราวันนี้คือเมือง Matsue (松江 – มัตซึเอะ) ซึ่งเราจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบชินจิกันครับ
จริงๆแล้วเมือง Matsue จะมีกิจกรรมอื่นๆที่ได้รับความนิยมอยู่อีก 2-3 อย่าง เช่น ไปดูปราสาท Matsue ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น รองจากปราสาทฮิเมจิ หรือ ไม่ก็ไปเดินชมหมู่บ้านซามูไร ซึ่งรักษาสภาพเอาไว้อย่างดี อีกโปรแกรมที่เราเสิร์ชแล้วจะก็คือนั่งเรือรอบคลองที่อยู่รอบตัวเมือง แต่เวลาเราไม่ค่อยเยอะก็เลยได้แต่ดูพระอาทิตย์ตกครับ
ซึ่งเราก็ดันไปดูผิดที่อีก หะหะ จุดชมพระอาทิตย์ตกที่นิยมกันจะเป็นบริเวณ Art Museum ที่อยู่ติดทะเลสาบชินจิ ห่างจากสถานี Matsue ประมาณกิโลกว่าๆ จากจุดนี้จะเห็นเกาะเล็กๆที่มีต้นไม้อยู่เป็นมุมฮิตที่จะมาถ่ายรูปกัน แต่เราเอาสะดวก ดูมันจากฝั่งทิศเหนือของทะเลสาบใกล้ๆกับที่พักเลยครับ
**อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Matsue ได้ที่กระทู้ของคุณ CMV ครับ

ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงสถานี Matsue เริ่มหิวและกลัวเวลาไม่พอ ทำให้ต้องยกเลิกร้านที่กะจะไป แล้วกินร้านธรรมดาในสถานีแทน ชามนี้เป็นโซบะเนื้อครับ
ทานข้าวเสร็จเราก็นั่งแทกซี่ไปโรงแรม ชื่อ Ten Ten Temari อยู่ไม่ไกลจากสถานีมากเท่าไหร่ ไปถึงก็รอเช็คอิน เอาของเก็บ แล้วก็ออกมาเดินรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกลงทะเลสาบชินจินั่นเอง
ทะเลสาบชินจิ(宍道湖) นั้นใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่น ความยาวรอบตัวทะเลสาบประมาณ 48 กิโลเมตร เมืองและหมู่บ้านรอบๆทะเลสาบก็จะมีรายได้มาจากการจับปลาและรายได้จากธุรกิจการท่องเที่ยว พวกโรงแรมที่พักต่างๆเพราว่าเป็นทะเลสาบที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูพระอาทิตย์ตกกันครับ ซึ่งก็จะมีทั้งดูบนฝั่ง หรือจะนั่งเรือไปดูในทะเลสาบก็มี

มุมยอดนิยม ต้องถ่ายที่ Art Museum ครับ (ขอบคุณรูปจากเว็บ en.go-to-japan.jp ครับ)
แต่ก็เป็นโชคร้ายของเราอีก เพราะว่าวันที่ไปนั้นเมฆค่อนข้างหนา ทำให้เห็นพระอาทิตย์ยังไม่ทันลับขอบฟ้าก็ติดฝูงเมฆที่รวมกันเป็นก้อนใหญ่ๆ แทน น่าเสียดายจริงๆ ครับ ใกล้ๆมือก็กลับไปที่พักเปลี่ยนชุดออกมาจ๊อกกิ้งหน่อยเพราะทานเยอะเหลือเกิน ส่วนข้าวเย็นวันนี้นั้น เราจะทานกันที่โรงแรมครับ ติดตามได้ในตอนหน้าครับ

พระอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบชินจิ