เดินทางกันมาจนถึงวันที่ 7 ของทริปครับ วันนี้เราจะย้ายเมืองกันแล้ว ออกจาก Fukuoka ไปยังเมือง Nagasaki เมืองที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 2 เมืองที่โดนระเบิดปรมาณูตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเองครับ (อีกเมืองคือ Hiroshima)
ผมและสมาชิกในทริปพยายามออกเดินทางจากสถานี Hakata ตั้งแต่เช้าๆ เพื่อเราจะได้มีเวลาเที่ยวที่ Nasagaki เยอะหน่อย การเดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างที่รอรถออกหิมะก็ลงมาปรอยๆ เป็นละอองสวยงาม พยายามหยิบกล้แงมาถ่ายแต่ก็ได้ภาพไม่สวยเท่าที่เห็น ในใจก็คิดว่าเเออ เราตื่นเต้นอยู่คนเดียวรึเปล่า แต่ก็เห็นคนญี่ปุ่นหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปบ้างเหมือนกันครับ
พอมาถึง Nagasaki ก็ขึ้น Taxi ไปยังโรงแรม Richmond Hotel เพื่อฝากกระเป๋าซะก่อน ตัวโรงแรมอยู่ในโซนที่ดูเป็นแหล่งเที่ยวกลางคืน ผับบาร์เยอะมาก แต่ไม่เปิดเลยครับ เพราะเป็นวันขึ้นปีใหม่พอดี จากโรงแรมก็เดินๆ ไปจนถึงย่าน Chinatown เพื่อหาของกิน ที่นี่มีชื่อเรื่องจัมปง เป็นเมนูเส้นๆ คล้ายราเม็ง แต่เป็นสไตล์จีนมากกว่า เพราะคนจีนอยู่ที่ Nagasaki นี่เพียบเลยครับ
แต่ปัญหาก็คือมันจะใส่อาหารทะเลทุกร้าน ทำให้ผมและพี่ชายอดทาน สุดท้ายเลยได้แค่กินซาลาเปาเจ้าดังรองทอง แล้วเดินทางไปยัง Glover Garden จุดมุ่งหมายของเราในวันนี้เพราะด้วยความหวังในใจว่า มันเป็นที่เที่ยวดัง มันต้องมีร้านข้าวอร่อยๆ
พอไปถึงพยายามเปิดแอพประจำของเราอย่าง foursquare เปิดเว็บ tabelog หายังก็ไม่ค่อยมีอะไรน่ากิน ความหิวของเราเอาไม่อยู่แล้ว เดนิไปเดินมาจนไปจบที่ร้านอาหารใต้ดินร้านหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศก็ไม่ค่อยดี เหมือนโรงอาหาร แล้วอาหารก็ดันไม่อร่อยเสียอีก สรุปว่าข้อดีที่พอจะมีของที่นี่ คือมันให้พวกเราได้หลบลมหนาวและก็ให้อาหารกินกันตายไปอีก 1 มื้อครับ
William J. Alt เป็นพ่อค้าชาวอังกฤษเดินทางมายัง Nagasaki ในปี 1859 โดยเริ่มกิจการแรกคือการค้าขายชาในนามบริษัท Alt & Co. ตัวของ Alt และครอบครัวอยู่อาศัยที่บ้านนี้ในช่วงปี 1865-1868 จากนั้นก็ได้ย้ายไปอยูที่ Osaka และ Yokohama หลังจากเดินทางกลับอังกฤษไปแล้ว บ้านนี้ได้กลายเป็นโรงเรียน Methodist Kwassui Academy เป็นสถานกงสุลของอเมริกา ก่อนจะกลายมาเป็นบ้านของลูกชายคนโตของ Frederick Ringer ในปี 1903 ซึ่งอาศัยอยู่จนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 สุดท้ายกลายมาเป็นทรัพย์สินของเมือง Nagasaki ในปี 1970
อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1887 โดยเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษอยู่ถึงปี 1932 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนจุดประสงค์ในการใช้งานไปหลายๆอย่าง จนปี 1972 ก็ถูกบริจาคให้เมือง Nagasaki ครับ
Glover เป็นชาวสกอตแลนด์ เค้าเดินทางจากจีนมาถึง Nagasaki ในปี 1859 โดยตอนนั้นอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น เริ่มต้นก็ค้าขายสินค้าเหมือนกับพ่อค้าชาวตะวันตกคนอื่นๆ เช่น ชา อาวุธ และเรือมือสอง อีกหนึ่งภารกิจที่ท้าทายเพราผิดกฎหมาย ก็คือส่งให้คนญี่ปุ่นไปเปิดโลก ร่ำเรียนวิชาที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งหนึ่งในนั้นได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมาด้วย (Ito Hirobumi)
Glover ยังคงดำเนินธุรกิจอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น อู่ต่อเรือ เหมืองถ่านหิน และโรงเบียร์ (ภายหลังกลายเป็น Kirin) รวมถึงเป็นผู้ริเริ่มกิจการรถไฟของญี่ปุ่นด้วย คนอะไรจะเทพขนาดนี้
Kuraba Tomisaburo ลูกชายของ Glover อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้จนกระทั้งปี 1939 ก็ได้ขายให้กับ Mitsubishi Nagasaki Shipyard พอปี 1957 บริษัทก็บริจาคอาคารนี้ให้กับเมือง Nagasaki จากนั้นก็ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปีต่อๆ มา
ที่จริงแล้วยังมีบ้านเรือนและอาคารต่างๆ ของชาวต่างชาติที่มาสร้างกิจการ ใน Nagasaki อีกหลายหลัง แต่ผมเก็บภาพไม่ได้ไม่หมดด้วยเวลาที่จำกัด อย่างเช่นบ้านของ Frederick Ringer (ที่เชนร้านจัมปงเจ้าใหญ่ของ Nagasaki เอาไปตั้งเป็น Ringer Hut) โดยส่วนมากตัวเมืองก็จะได้รับบริจาคจากเจ้าของคนสุดท้าย หรือไม่ก็ไปขอซื้อคืนมา แล้วก็รื้อถอนจากที่ตั้งดั้งเดิม นำมาประกอบใหม่ไว้บนเขาแห่งนี้ ให้ผู้คนได้เข้าเยี่ยมชมครับ
Glover Garden Nagasaki
เปิด 8.00-18.00 บางช่วงของปีเปิดถึง 21.30 ดูได้จากเว็บไซต์
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 610 เยน / นักเรียนม.ปลาย 300 เยน / นักเรียนม.ต้นและประถม 180 เยน
เดินทางโดยรถรางลงสถานี : Oura Tenshudo-shita หรือ Ishi-bashi