เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มีนา) มีโอกาสได้รับเชิญจากทาง Captain Barrel ไปร่วมงาน The Legendary La Trappe Night ที่ร้าน Quaint สุขุมวิท 61 มาครับ ตัวงานจัด 2 ช่วง ช่วงบ่ายเป็นพาร์ทเนอร์ พอเย็นๆก็จะเป็นปาร์ตี้ครับ
สำหรับเบียร์ La Trappe (ลา ทราปป์ แต่ผมก็ชอบอ่านผิดเป็นลาแทรปป์เหมือนกันครับ) นั้นจะเป็นเบียร์ที่เรียกว่า Trappist หรือเบียร์ที่พระ (บาทหลวง) เป็นคนผลิตเพื่อหาเงินมาดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของทางวัดครับ ผลิตโดย Brouwerij de Koningshoeven ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 1884 เบียร์ที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นสไตล์แบบเบลเยี่ยม แม้ว่าจะผลิตในเนเธอร์แลนด์ รสชาติก็จะออกแนวมอลต์ๆ รสสุขุมๆ แบบยุโรป ไม่จี๊ดจ๊าดแบบเบียร์โลกใหม่
ภายในงานนี่มีเสิร์ฟชีสแล้วก็พวกแฮมต่างๆ ให้ทานไม่อั้นเลย เพลินมากครับ ทานคู่กันกับตัว Dubbel หรือ Quadrupel ซึ่งมีรสออกหวาน เข้ากันดีมากๆ ทานไปทานมาเล่นเอามึนๆ เหมือนกัน ต้องชลอการดื่ม รอปาร์ตี้ในช่วงเย็นครับ
บรรยากาศชั้น 2 ของร้านครับ
Taste the silence
ร้านตกแต่งเหล็กดำๆ ผสมกับไม้
แบบขวดมีมาหลายตัวเลยครับ
ส่วนแบบสดมี 3 ตัว ตัวแรกเป็น Witte
ตัวที่ 2 เป็น Dubbel
ตัวสุดท้ายเป็น Quadrupel
La Trappe แบบเป็นขวด
เริ่มตัวแรกด้วยตัวเบาๆ Witte Trappist ครับ หอมอ่อนๆ สดชื่นๆ เบาสบาย สาวๆ น่าจะชอบทานตัวนี้ ดื่มง่ายครับ
เดินไปสำรวจด้านในมีชีสอยู่เพียบเลย มีตัวเบียร์วางไว้ว่าควรทานกับชีสตัวไหนด้วยครับ
อีกโต๊ะเป็นพวก prosciutto พาร์ม่าแฮม อร่อยดีครับ
Fruit Paste นี่ก็แก้เลี่ยนดี
อันนี้ก็ทานเพลินดีครับ Beef Bites เป็นเนื้อสับ น้ำซอสอร่อยดี
กลับไปต่อตัวที่ 2 Dubbel ครับ แอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นมาหน่อยอยู่ที่ 7%
สีเข้มหน่อย รสหวานแบบคาราเมลๆ จุดเด่นอีกอย่างของเบียร์ trappist ก็คือจะเสิร์ฟมาในแก้วทรง Goblet ครับ
ทานกับชีสแล้วก็แฮมเข้ากันดีเลย
ตัวต่อมาเป็นสดตัวสุดท้าย Quadrupel
สีอ่อนลงมาหน่อย ตัวนี้หวานแต่รู้สึกบอดี้บางครับ แอลกอฮอล์หนักเลย 10 %
ตัวนี้เป็น Isid’or มีแต่แบบขวด แปลกดีตัวนี้ เครื่องเทศอ่อนๆ สไตล์เบลเยี่ยมแต่ทานง่าย
ตัวที่ผมชอบมาที่สุดเป็น Bock ครับ กลิ่นมันจะคั่วๆเข้มๆ น้ำเบียร์ใสไม่หนืดมาก มีรสไหม้ๆ กับผลไม้แห้ง
ตัวสุดท้ายที่ลองเป็น Quadrupel แบบขวด รู้สึกหวานแหลมๆ รสทอฟฟี่ๆ
เสร็จจากช่วงทดลองก็เป็นช่วงปาร์ตี้ตอนเย็นๆครับ
ด้านหน้าร้านครับ
เอาบัตรไปแลกคูปอง
จะได้เป็นคูปองแบบนี้มาสามารถเลือกได้ว่าจะทานตัว Witte สดหรือลองเป็น Test Flight 5 ตัวครับ
บรรยากาศลานหลักของร้าน
เข้ามาด้านในตัวร้านครับ
เข้าคิวรอแลกคูปอง ผมเลือกเป็น test flight 5 ตัวนี้ครับ
ตัวซ้ายเป็น Tripel ตัวที่ 2 Isid’or ตัวที่ 3 เป็น Bock ตัวที่ 4 Blond ตัวขวาสุดเป็น Witte
ราคาแบบขวดครับ
มากันที่โซนอาหารบ้างครับ
มีชีสเพียบเลย
น้ำผึ้งจากรังสดๆ
ชีสก็มีหลายตัวครับ
Grana Padano ตัวนี้จะแข็งๆ แห้งๆ ครับ เค็มนิดๆ ครับ
Parmigiano Reggiano แข็งนิดๆเช่นกัน เป็น Parmesan แบบนึงครับ
Salami ทานกับเบียร์ก็เข้าดี
อีกโต๊ะมีชิปส์ครับ
ออกมาด้านนอกอีกทีดนตรีกำลังสนุกเลย
มีบูทเสิร์ฟเบียร์สดอยู่ 3 ตัวครับ
ขายแก้วละ 200 บาท ครับ
มีวงดนตรีบรรเลงเพลง Jazz อยู่ที่หน้าต่างครับ
สักพักคุณ plajazz มือทรัมเป็ตลงมาเป่าด้านล่างด้วยครับ
ด้านในมีฉายวิดิโออยู่เลยเข้ามาดูซะหน่อย
โลโก้ La Trappe บนถังบาร์เรลครับ
ออกมาข้างนอกอีกทีกลายเป็นเพลงสวิง เต้นกันสนุกเลย
ก่อนกลับถ่ายหน้าร้าน Quaint อีกซักภาพครับ
เป็นงานที่ประทับใจมากครับ ทั้งตัวเบียร์เอง ทั้งชีสและแฮม รวมถึงเพลง jazz สนุกๆ และบรรยากาศร้านดีๆ ขอบคุณทางคุณ ไปท์ จาก Captain Barrel ที่ได้ชวนไปร่วมงานครับ พลาดนี่เสียดายเลยครับ