การเดินทางไปงานเบียร์ The Beer Week Seoul ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีของผมเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ผมเดินทางด้วยสายการบิน Korean Air ครับ ตอนแรกที่หานั้นคิดอยู่ว่าจะบิน Korean Air หรือ Asiana ดี สุดท้ายมาลงเอยที่ Korean Air ครับ
ไฟลท์ออกจากกรุงเทพฯ ที่สุวรรณภูมิ เวลาเที่ยงคืนสิบนาที (KE 658) บิน 5 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงสนามบินอินชอนช่วง 7 โมงกว่าๆ (เวลาเกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) ทริปนี้ผมบินชั้นธุรกิจก็เลยนอนสบายหน่อย หลับสนิท เพราะเก้าอี้ปรับนอนราบได้ แต่ก็หลับได้แป๊บเดียวก็ตื่นมาทานข้าวเวลาประมาณตี 3 ตี 4 บ้านเรา
สำหรับเลาจน์ตอนแรกเปิดรีวิวดูคิดว่าจะได้ไปลองเลาจน์ KLM / Air France ปรากฎเค้าให้ไป Louis Tavern อีกแล้ว ฮ่าๆ อดลองของใหม่ครับ มีขากลับได้เข้าไปลองเลาจน์ของ Korean Air ที่สนามบินอินชอน (เดี๋ยวเขียนแยกอีกตอน)

สุวรรณภูมิเคาเตอร์ของ Korean Air จะอยู่ที่แถว N

ชั้นธุรกิจจะมีชื่อว่า Prestige Class ครับ

โหลดกระเป๋าเสร็จก็จะได้รับบัตร Premium Lane และ บัตรเข้าเลาจน์ Louis Tavern ครับ

พอถึงเวลาก็มาขึ้นเครื่องที่เกต G3

บรรยากาศชั้นธุรกิจของ Korean Air ครับ

ที่นั่งจะเป็นแบบ 2-3-2

ที่นั่งริมหน้าต่างเป็น 2 ที่ติดกัน

จอทีวีจะติดอยู่กับพนักด้านหลังของเก้าอี้ตัวหน้า

ที่นั่งขายาวเหยียดสบาย

บรรยากาศห้องโดยสารจากด้านหลัง

แชมเปญมาเสิร์ฟก่อนเครื่องขึ้นครับ

พร้อมถั่วหนึ่งซอง

เครื่องบินวันนี้เป็น Boeing 777-300

มีรองเท้าให้

ปลั๊กไฟเต้าแบบ Universal

ปุ่มปรับที่นั่ง

ช่องเสียบหูฟังและ usb ครับ

Controller

ไฟอ่านหนังสือ LED

หูฟัง

ที่นั่งสามารถปรับให้นอนราบได้ประมาณนี้

มีเสิร์ฟของทานเล่นก่อนปิดไฟ เป็นกุ้งพันตะไคร้ซอสหวาน ผมทานไม่ได้ ได้แต่ถ่ายรูป

สั่งไวน์แดงมาทาน เสร็จแล้วก็นอนครับ

น้ำแอปเปิลเปรี้ยว สดชื่นดี

หลับได้ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ตื่นมาทานอาหารเช้า พนักงานมาเสิร์ฟน้ำส้มก่อน

รายการอาหาร

รายการอาหาร

รายการอาหาร

รายการอาหาร

รายการอาหาร

รายการอาหาร

ผมเลือกทานเป็นอาหารฝรั่งครับ

เป็นคีชมอสซาเรลล่าเนื้อนุ่มเนียน มีเค็มๆชีสหน่อย ผักโขมลวกค่อนข้างจืด มะเขือเทศและเบคอนชิ้นหนานุ่ม เค็มกำลังดี

ทานกับครัวซองอุ่นๆ หนึบ เนื้อแน่น

กาแฟพอใช้ได้ครับ ร้อนดี

ก่อนเครื่องลงแวะไปสำรวจห้องน้ำหน่อย

มีความรู้สึกว่าห้องน้ำเล็กๆ

บรรยากาศก่อนเครื่องแลนดิ้ง

ถึงสนามบินอินชอนแล้วครับ

ขากลับเป็นไฟลท์ช่วงหัวค่ำ เคาเตอร์อยู่ที่แถว C ครับ

ผู้โดยสารเยอะ แต่ช่องเคาเตอร์ก็เยอะดีเช่นกัน

ตั๋วไฟลท์ KE659 ออก 19.40 ครับ ใช้เข้าเลาจน์ของ Korean Air ด้วยเลย

เดินทางกลับด้วยเครื่อง Airbus A330-300 ครับ

บรรยากาศในห้องโดยสาร

หน้าตาที่นั่งเหมือนเดิม จัดเรียง 2-3-2 เช่นกัน

ไฟลท์นี้ผู้โดยสารไม่เต็มครับ ขามาเต็มทุกที่

พนักงานมาเสิร์ฟแชมเปญก่อนเทคออฟ

ได้รับรองเท้าหนึ่งคู่

ปุ่มปรับที่นั่ง

ไฟลท์นี้ผมนั่งแถวหน้าสุด ตัวจอเลยพับไว้ด้านข้างครับ

เวลาพักเก็บเป็บแบบนี้

บรรยากาศจากด้านหลังเครื่อง

ไฟอ่านหนังสือแบบ LED

ช่อง USB และหูฟัง

Controller

เก้าอี้มีที่วางขาแบบนี้สบายดีครับ

พนักงานมาปูผ้าให้

รายการอาหาร

รายการอาหาร

รายการอาหาร

รายการอาหาร

รายการอาหาร

มีวิธีการคลุก Bibmibap ให้ดู

เริ่มด้วยน้ำแอปเปิ้ลรสเปรี้ยวหวาน

จานเรียกน้ำย่อยครับ เป็นเห็ดย่างกับแฮมไก่ง่วง อุ่นๆ รสเค็มอ่อนๆ เห็ดนุ่ม แฮมหั่นมาเป็นชิ้นเล็กๆ

ตามด้วยสลัดและขนมปัง

ชีสหนึบๆ รอกเกตใหญ่ ขมนิดๆ มะเขือเทศเนื้อแน่น

ขนมปังนุ่มอุ่น

ทานกับไวน์แดงครับ

ซุปถั่วเนียนเหลวรสกลางๆ อ่อนๆ

ของพี่ชายเป็น Bibimbap ครับ

น้ำซุป

ข้าวเปล่า

ไวน์มาเสิร์ฟในตะกร้าแบบนี้ (ขออภัยมือสั่น ฮ่าๆ)

จานหลักเป็น เนื้อนุ่มจืด แต่ร้อนดีครับ ซอสรสโรสแมรี่ มาพร้อมกับเห็ดดึ๋งๆ ร้อน นุ่มมันฝรั่งเละๆ รสอ่อน

ปิดท้ายด้วยไอศครีม Haagen dazs

และกาแฟดำ

สำรวจห้องน้ำก่อนลงเช่นเคย

ห้องน้ำครับ
ขากลับเวลาดีครับกลับมาถึงเกือบๆ เที่ยงคืน โดยรวมก็โอเคครับ บริการดี เครื่องใหม่ มีเรื่องราคาแอบแรงนิดๆ แล้วบินไม่นานมาอาจจะดูไม่ค่อยคุ้มค่า คือไปสองคน ตั๋วใบแรกได้ราคาค่อนข้างถูก แต่คนที่สองนี่โหดเลย
ยังไงรวมๆ ก็ประทับใจครับ อาจจะได้ใช้บริการอีก ถ้าจะเดินทางไปอเมริกา