ร้านอาหาร

Cuisine de Garden ชิมเทสติ้งเมนูจานสวย ปรุงแต่งจากวัตถุดิบท้องถิ่น ชานเมืองเชียงใหม่

570 views |

ตอนเช้าทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นวังสิงห์คำ บ่ายๆ ทาน ฮอกไกโดซุปเคอรี่ที่ Supa แล้วก็นั่งทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟ จนเย็นๆ ผมก็เรียกรถ เดินทางออกนอกตัวเมืองลงมาทางทิศใต้

มีจุดหมายอยู่แถว หนองควาย หางดงครับ ไม่ไกลจากร้านลาบขุนเสที่เคยมาเมื่อสองปีก่อน ร้านที่จองมาวันนี้ชื่อว่า Cuisine de Garden ครับ อยู่ในถนนเล็กๆ จากถนนใหญ่เข้ามาประมาณสัก 1 กิโลเมตร

มาถึงหน้าร้านเจอกำแพงสีขาว แล้วเดินเข้ามาทางซ้ายมือผ่านสวน ก็จะเจอตัวร้านที่ซ่อนอยู่ครับ พนักงานงานออกมาต้อนรับด้วยความยิ้มแย้มและพามานั่งที่ห้องฝั่งขวามือซึ่งอยู่ติดกั บครัว

กำแพงสีขาวด้านอก
เดินเข้ามาด้านในครับ
ป้ายหน้าสวน
เดินผ่านสวนเข้าไป
จนสุดทางด้านใน
ก็จะเจอทางเข้าร้านครับ
เข้ามาด้านใน
บรรยากาศภายในโซนที่นั่ง
เคาเตอร์ที่ติดกับครัว
รายการอาหาร
บรรยากาศภายในร้าน
รายการเครื่องดื่ม
กระทงทองแบบชาโคลมีหอยชักตีนจากกระบี่ใส่มาพร้อมกลับข้าวโพดของเชียงใหม่ และ blod lime คำนี้รสเปรี้ยวหวาน กรุบๆ ครีมมี่นิดหน่อย สดชื่นดีครับ ข้าวโพดหนึบ มีรสเค็มท้ายๆ
หอยชักตีนอีกจานครับ เสิร์ฟคู่กับโคจิพริกดองที่ทางร้านหมักเอง ด้านบนโรยด้วยพุทราจีน กูสเบอรี่ กระเทียมโทนดองน้ำผึ้ง รสเปรี้ยวนำขึ้นมาก่อน ตามด้วยเค็มและหวาน ผักด้านบนจะซอยละเอียด กรุบๆ หน่อย ส่วนหอยเนื้อแน่น สดดีไม่คาว
ปลาโอและปลาช่อนทะเลจากจังหวัดชุมพร ปลาโอนำไปดรายเอจก่อนสามวันแล้วเอาไปแช่โชยุ (สึเกะ) โดยตัวโชยุนี่หมักกับมะข่วงด้วยครับ เนื้อปลานุ่มเนียน มีความลื่นเล็กน้อย ซิตรัสบางๆ ชอบมากครับคำนี้ คือประทับใจที่สุดในทริปนี้เลย
ทานเสร็จเปิดฝาถ้วยลงไปก็จะเจอกับปลาช่อนทะเลจากชุมพรเช่นกัน
ราดด้วยน้ำซอสมะเม่าและผงมะเขือเทศอบแห้ง เนื้อปลาแน่น กรึ่บๆ มีรสเปรี้ยวหน่อย หวานนิด ปลาสดดีครับ ไม่คาว มีรสขมบางๆ
ลำดับถัดมาเป็นอีกเมนูที่มีการเปลี่ยน จริงๆ แล้วต้องเป็นกุ้งลายเสือครับ ผมได้เป็นปลาช่อนทะเลแทน ใส่กับกัวคาโมเล่ซึ่งทำจากอโวคาโดที่ปลูกที่เชียงใหม่นี่เองครับ ด้านบนเป็นดอกข่าโคโช ที่เอาดอกข่ามาตำกับพริกใช้แทนวาซาบิ ส่วนตัวแครกเกอร์ทำจากโคจิข้าว กรอบดีครับ ส่วนกัวคาโมเล่เปรี้ยวเค็ม ได้รสเผ็ดจากดอกข่าบางๆ
มัฟฟิน 3 ทอปปิ้งครับ มีเกล็ดข้าวโพด สีขาวเป็นข้าวท้องถิ่นของชาวเขา ส่วนสีดำเป็นข้าวทับทิมจาก ปาย
เสิร์ฟพร้อมเนย ซึ่งจริงๆ จะเป็นเนยปูอ่อง แต่ของผมเป็นเนยธรรมดาครับ
ตัวมัฟฟินเนื้อนุ่มหลวม เคี้ยวแล้วหนึบๆ ขอบด้านบนจะกรุบๆ รสอ่อนๆ ครับ
บรรยากาศในตอนปรุงอาหารครับ
ไข่ทามาโกะยากิครับ ที่จริงไส้จะเป็นกุ้งฝอยของผมเปลี่ยนเปนปลาดุกนาแทน คลุกเคล้ากับแตงกวาดอง เนื้อปลาซุยๆ ผักกรุบ มีรสเปรี้ยวมาตัด ส่วนไข่เนื้อหลวม รสหวานนิดๆ
จานต่อมาเป็น signature ของร้านครับ ชื่อ The Nest เป็นไข่ออนเซ็น หมี่กรอบ และไก่ฉีกครับ โดยให้เราตอกไข่เอง
ชิ้นไก่นุ่มๆ มีรสเค็มบางๆ ไข่เหลวเข้ากับความกรอบของหมี่กรอบ ตรงไข่แดงข้นหวานครับ
จานเนื้อครับ เป็นเนื้อวัวไทยส่วนสันคอ ดรายเอจ 30 วัน ยางบนถ่านไม้ลำไย ด้านข้างเป็นเนื้อเค็มตุ๋นกะทิ มีก้านตูนสไลซ์เป็นแผ่นวางอยู่ด้านบนคู่กับหน่อไม้น้ำจากเชียงราย ชิ้นเนื้อหนึบๆ หอมกลิ่นควันครับ รสเนื้อเยอะดี ย่างมาสุกพอดีเลย
ส่วนเนื้อตุ๋น ออกซุยๆ รสเค็มหวานกะทิ มีกลิ่นเครื่องแกงนิดหน่อย น้ำราดก็ทำจากเนื้อเค็มครับรสหวานแบบ คาราเมไลซ์ผักด้านบนออกแนวหนึบๆ ครับ
อาหารคาวเมนูสุดท้ายเป็นโอชาสึเกะ ใช้ข้าวจากชาวเขา หุงกับน้ำมันไก่และสมุนไพร เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสต๊อกไก่และมะนาวดอง จริงๆ เค้าเสิร์ฟมาเป็นห่อแล้วให้เราแกะเอง แต่ผมลืมถ่ายรูปครับ ถ่ายแต่ตอนแกะไปแล้วป
อาหารคาวเมนูสุดท้ายเป็นโอชาสึเกะ ใช้ข้าวจากชาวเขา หุงกับน้ำมันไก่และสมุนไพร เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสต๊อกไก่และมะนาวดอง จริงๆ เค้าเสิร์ฟมาเป็นห่อแล้วให้เราแกะเอง แต่ผมลืมถ่ายรูปครับ ถ่ายแต่ตอนแกะไปแล้ว ข้าวเมล็ดใหญ่หนึบๆ อารมณ์แบบพวกข้าวซ้อมมือครับ ตัวซุปร้อนจี๋ รสเค็มกลมกล่อม เข้มข้นดี เปรี้ยวนิดๆ เมนูนี้ก็ชอบครับ
ของหวานจานแรกเป็นกรานิต้าที่ทำจากมะม่วงหาว มะนาวโห่ หมักกับน้ำตาลเพื่อตัดรสเปรี้ยวแล้วเอามาปั่นกับมะพร้าวครับ รสเปรี้ยวเค็ม เย็นสดชื่น เนื้อซุยๆ มีแบบเทกเจอร์ ล้างปากดีครับ
จานที่สองเป็นบานอฟฟี่ทำจากกล้วยไข่ปิ้ง ด้านล่างเป็นแผ่นแป้งโคจิ ส่วนชอคโกแลตจากจังหวัดน่าน ด้านบนโรยด้วยกลีบกุหลาบจากสวนด้านนอกของทางร้านนั่นเองครับ ชิ้นกล้วยดึ๋ง หนึบ รสคาราเมลๆ ชอคโกแลตหลวมๆ หวานกำลังดี
กล้วยอยู่ด้านล่าง
ปิดมื้อด้วยชาอู่หลงยอดน้ำค้าง รสฟรุตตี้ๆ
เสิร์ฟมาพร้อมกับก้อนหินที่ทานได้ ทำจากน้ำเสาวรสที่เคลือบด้วยเนยกับผงชาโคล ครับ ลูกเล่นคือจะเสิร์ฟมาพร้อมกับหินจริงๆ ฮ่าๆๆ
รสออกเนยๆ หวาน เปรี้ยว มันครับ

ร้าน Cuisine de Garden เปิดตั้งแต่ 2011 เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส โดยเป็นอาหารผสมผสาน ใช้วัตถุดิบต่างๆ จากภายในประเทศ เช่น ปลาจากภาคใต้ ข้าวจากภาคเหนือ แบ่งเสิร์ฟเป็นหมวด Seafood Temptation และ Farm Land ปรุงและจัดเรียงมาในจานอย่างสวยงามสไตล์ร้านไฟน์ไดนิ่งครับ ในคอร์สสามารถเลือกไวน์แพริ่งได้ด้วย

โดยจะเริ่มจากฝั่งทะเลเสิร์ฟเป็นเรียกน้ำย่อยจานแรกก่อนครับ เป็นกระทงทองแบบชาโคลมีหอยชักตีนจากกระบี่ใส่มาพร้อมกลับข้าวโพดของเชียงใหม่ และ blod lime คำนี้รสเปรี้ยวหวาน กรุบๆ ครีมมี่นิดหน่อย สดชื่นดีครับ ข้าวโพดหนึบ มีรสเค็มท้ายๆ 

รายการต่อมาจริงๆ จะเป็นปลาหมึก แต่ผมแพ้ก็เลยได้เป็นหอยชักตีนอีกจานครับ เสิร์ฟคู่กับโคจิพริกดองที่ทางร้านหมักเอง ด้านบนโรยด้วยพุทราจีน กูสเบอรี่ กระเทียมโทนดองน้ำผึ้ง รสเปรี้ยวนำขึ้นมาก่อน ตามด้วยเค็มและหวาน ผักด้านบนจะซอยละเอียด กรุบๆ หน่อย ส่วนหอยเนื้อแน่น สดดีไม่คาว 

ตามมาด้วยเมนูปลา เป็นปลาโอและปลาช่อนทะเลจากจังหวัดชุมพร ปลาโอนำไปดรายเอจก่อนสามวันแล้วเอาไปแช่โชยุ (สึเกะ) โดยตัวโชยุนี่หมักกับมะข่วงด้วยครับ เนื้อปลานุ่มเนียน มีความลื่นเล็กน้อย ซิตรัสบางๆ ชอบมากครับคำนี้ คือประทับใจที่สุดในทริปนี้เลย

ทานเสร็จเปิดฝาถ้วยลงไปก็จะเจอกับปลาช่อนทะเลจากชุมพรเช่นกัน ราดด้วยน้ำซอสมะเม่าและผงมะเขือเทศอบแห้ง เนื้อปลาแน่น กรึ่บๆ มีรสเปรี้ยวหน่อย หวานนิด ปลาสดดีครับ ไม่คาว มีรสขมบางๆ

ลำดับถัดมาเป็นอีกเมนูที่มีการเปลี่ยน จริงๆ แล้วต้องเป็นกุ้งลายเสือครับ ผมได้เป็นปลาช่อนทะเลแทน ใส่กับกัวคาโมเล่ซึ่งทำจากอโวคาโดที่ปลูกที่เชียงใหม่นี่เองครับ ด้านบนเป็นดอกข่าโคโช ที่เอาดอกข่ามาตำกับพริกใช้แทนวาซาบิ ส่วนตัวแครกเกอร์ทำจากโคจิข้าว กรอบดีครับ ส่วนกัวคาโมเล่เปรี้ยวเค็ม ได้รสเผ็ดจากดอกข่าบางๆ

จบหมวดทะเลไปก็เป็นหมวด Farm Land ครับ เริ่มด้วยมัฟฟิน 3 ทอปปิ้งครับ มีเกล็ดข้าวโพด สีขาวเป็นข้าวท้องถิ่นของชาวเขา ส่วนสีดำเป็นข้าวทับทิมจาก ปาย เสิร์ฟพร้อมเนย ซึ่งจริงๆ จะเป็นเนยปูอ่อง แต่ของผมเป็นเนยธรรมดาครับ ตัวมัฟฟินเนื้อนุ่มหลวม เคี้ยวแล้วหนึบๆ ขอบด้านบนจะกรุบๆ รสอ่อนๆ ครับ

ต่อด้วยไข่ทามาโกะยากิครับ ที่จริงไส้จะเป็นกุ้งฝอยของผมเปลี่ยนเปนปลาดุกนาแทน คลุกเคล้ากับแตงกวาดอง เนื้อปลาซุยๆ ผักกรุบ มีรสเปรี้ยวมาตัด ส่วนไข่เนื้อหลวม รสหวานนิดๆ

จานต่อมาเป็น signature  ของร้านครับ ชื่อ The Nest เป็นไข่ออนเซ็น  หมี่กรอบ และไก่ฉีกครับ ชิ้นไก่นุ่มๆ มีรสเค็มบางๆ ไข่เหลวเข้ากับความกรอบของหมี่กรอบ ตรงไข่แดงข้นหวานครับ

แล้วก็เป็นจานเนื้อครับ เป็นเนื้อวัวไทยส่วนสันคอ ดรายเอจ 30 วัน  ยางบนถ่านไม้ลำไย ด้านข้างเป็นเนื้อเค็มตุ๋นกะทิ มีก้านตูนสไลซ์เป็นแผ่นวางอยู่ด้านบนคู่กับหน่อไม้น้ำจากเชียงราย ชิ้นเนื้อหนึบๆ หอมกลิ่นควันครับ  รสเนื้อเยอะดี ย่างมาสุกพอดีเลย 

ส่วนเนื้อตุ๋น ออกซุยๆ รสเค็มหวานกะทิ มีกลิ่นเครื่องแกงนิดหน่อย น้ำราดก็ทำจากเนื้อเค็มครับรสหวานแบบ คาราเมไลซ์ผักด้านบนออกแนวหนึบๆ ครับ

อาหารคาวเมนูสุดท้ายเป็นโอชาสึเกะ ใช้ข้าวจากชาวเขา หุงกับน้ำมันไก่และสมุนไพร เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสต๊อกไก่และมะนาวดอง จริงๆ เค้าเสิร์ฟมาเป็นห่อแล้วให้เราแกะเอง  แต่ผมลืมถ่ายรูปครับ  ถ่ายแต่ตอนแกะไปแล้ว ข้าวเมล็ดใหญ่หนึบๆ อารมณ์แบบพวกข้าวซ้อมมือครับ ตัวซุปร้อนจี๋ รสเค็มกลมกล่อม เข้มข้นดี เปรี้ยวนิดๆ เมนูนี้ก็ชอบครับ

ของหวานจานแรกเป็นกรานิต้าที่ทำจากมะม่วงหาว มะนาวโห่ หมักกับน้ำตาลเพื่อตัดรสเปรี้ยวแล้วเอามาปั่นกับมะพร้าวครับ รสเปรี้ยวเค็ม เย็นสดชื่น เนื้อซุยๆ มีแบบเทกเจอร์ ล้างปากดีครับ

จานที่สองเป็นบานอฟฟี่ทำจากกล้วยไข่ปิ้ง ด้านล่างเป็นแผ่นแป้งโคจิ ส่วนชอคโกแลตจากจังหวัดน่าน ด้านบนโรยด้วยกลีบกุหลาบจากสวนด้านนอกของทางร้านนั่นเองครับ ชิ้นกล้วยดึ๋ง หนึบ รสคาราเมลๆ ชอคโกแลตหลวมๆ หวานกำลังดี 

ปิดมื้อด้วยชาอู่หลงยอดน้ำค้าง รสฟรุตตี้ เสิร์ฟมาพร้อมกับก้อนหินที่ทานได้ ทำจากน้ำเสาวรสที่เคลือบด้วยเนยกับผงชาโคล ครับ ลูกเล่นคือจะเสิร์ฟมาพร้อมกับหินจริงๆ ฮ่าๆๆ รสออกเนยๆ หวาน เปรี้ยว มันครับ

ใช้เวลาในมื้อนี้ทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงครับ เป็นมื้อที่ผมประทับใจมากที่สุดมื้อหนึ่ง อาหารอร่อย บรรยากาศดี พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสมากครับ ราคาก็ไม่แพงด้วย เสียดายวันที่ไปเชฟแนนไม่อยู่ พนักงานแจ้งว่าตกเครื่อง ถ้ามีโอกาสจะกลับไปทานอีกครับ ร้านนี้อยากให้ไปลองกันดูครับ

Cuisine de Garden หางดง เชียงใหม่
เบอร์ : +66817741479
เปิด : 18.00-21.30 ปิดวันจันทร์
เว็บไซต์
เพจ
foursquare

You Might Also Like


แสดงความคิดเห็น



WP Twitter Auto Publish Powered By : XYZScripts.com