ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งครับ เนื่องจากเป็นช่วงหน้าร้อน โตเกียว โอซาก้านี่ไม่ไหวแน่ ร้อนเกินไป ก็เลยเลือกเดินทางไปยังฮอกไกโด กลับไปซ่อมทริปคราวที่แล้วเมื่อปี 2013 เพราะคราวนั้นไปเร็วไปหน่อยดอกไม้ยังไม่บานครับ
สำหรับเส้นทาง กรุงเทพ-ซัปโปโร นั้นมีบินตรงเจ้าเดียวคือการบินไทย ถ้าเป็นเจ้าอื่นต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่โอซาก้าหรือโตเกียวครับ ซึ่งคราวนี้ผมได้มาลองบินในชั้น Business Class ของสายการบิน Japan Airlines อีกครั้ง แต่ก็ต่างกันกับคราวก่อนเพราะเป็นเครื่องคนละรุ่นครับ คราวที่แล้วเป็น JAL SKY SUITE Ⅲ ส่วนครั้งนี้เป็นแบบ Shell Flat Seat
โดยขาไปนั้นผมแวะเปลี่ยนเครื่องที่โอซาก้า (JL728) ส่วนขากลับแวะเปลี่ยนที่ฮาเนดะ (JL33) ครับ ทั้งสองไฟลท์ออกกลางคืน ก็จะมีเสิร์ฟแต่อาหารเช้า พอตอนบินภายในประเทศก็จะเป็นเครื่องลำเล็กหน่อย ไม่มีอาหารแจก บินประมาณเกือบสองชั่วโมงก็จะถึง Sapporo (New Chitose)

Japan Airlines เข้าประตูเบอร์ 8 ครับ

ประตู 8

แถว R

เคาท์เตอร์เช็คอินของชั้น Business Class ครับ

ได้ตั๋วมาเรียบร้อย 2 ใบคือ กรุงเทพ- โอซาก้า และ โอซาก้า- ซัปโปโร

ออกจาก Sakura Lounge มาขึ้นเครื่องที่เกต F5

บรรยากาศตอนเข้าเครื่องครับ

ระหว่างรอบินพนักงานมาเสิร์ฟน้ำ ปกติมีแชมเปญเสิร์ฟ แต่ไฟลท์นี้เป็นน้ำเปล่าครับ

ที่นั่งเป็นแบบ 2-2-2

ผมได้นั่งตรงกลาง ตัวซ้ายมือครับ

บรรยากาศจากด้านหลัง

จออยู่ติดพนักของที่นั่งข้างหน้า

ที่นั่งยาวดีครับ สุดขาเหยียด

รีโมท

ปุ่มปรับที่นั่ง

มีรองเท้าให้หนึ่งคู่ครับ

บรรยากาศตอนหรี่ไฟครับ

เก้าอี้ปรับให้นอนราบได้ประมาณนี้

เมนูอาหาร

เมนูอาหาร

เมนูอาหาร

เมนูอาหาร

ช่วงเช้ามืด ประมาณตีสามบ้านเรา ก็จะเสิร์ฟอาหารเช้าครับ มีน้ำส้มมาเสิร์ฟก่อน

อาหารผมเลือกแบบญี่ปุ่น มีรากบัว แล้วก็ไข่ปลาขมๆ อร่อย ข้าวเป็นก้อนสามก้อนคลุกกับผักและปลาอุ่นนุ่ม ทานกับไข่หวานเย็นๆ แกล้มด้วยผักดองนุ่มเปรี้ยวเย็น
ทานข้าวเช้าเสร็จอีกไม่นานก็ถึงสนาม Kansai ครับ พอลงมาก็ผ่านตม. ที่นี่เลย เสร็จออกมารับกระเป๋าแล้วไปเช็คอินและโหลดกระเป๋าเพื่อบินภายในประเทศต่อ คือขาไปนี่กระเป๋าไม่ได้ check through จากนั้นก็ไปรอใน Sakura Lounge ขนาดเล็กๆ ไม่มีอะไรมากนัก พอถึงเวลาก็เดินไปเกตซึ่งอยู่ใกล้เลาจน์เลยครับ ขึ้นเครื่องลำเล็กไปลง New Chitose บินประมาณ 1.50 ชั่วโมง นานพอสมควร ไฟลท์ JL2501 ไม่มีอาหารเสิร์ฟครับ
มาถึงวันกลับจาก New Chitose เรากลับไฟลท์ JL530 แวะเปลี่ยนเครื่องที่ Haneda แทน เครื่องออก 21.25 ถึงประมาณ 23.00 เร็วกว่าขาไปนิดหน่อย รอบขากลับนี่กระเป๋า Check through พอมีเวลาเหลือนิดหน่อยได้แวะ Sakura Lounge อีกที เสร็จก็ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพเป็นไฟลท์ JL33 ออกเดินทางประมาณ 0.40 ครับ

ลำนี้คือ JL530 บินจาก New Chitose ไป Haneda ครับ

ตัดมาที่ไฟลท์กลับกรุงเทพ JL33 เครื่อง Boeing 777-200 ที่นั่ง Business Class เป็นแบบ 2-3-2 คนเยอะพอสมควร

สภาพที่นั่งเยินๆ หน่อย

มีที่วางเท้า

ระยะห่างพอสมควรครับ

บรรยากาศด้านหลัง

จอติดอยู่กับเก้าอี้ด้านหน้าครับ

รีโมท และปลั๊กไฟ

ปุ่มปรับที่นั่ง

บรรยากาศชั้น Business ของ Boeing 777-200

ปรับให้นอนได้เกือบราบ 180 องศาครับ

เมนูอาหารในไฟลท์ JL33

เมนูอาหารในไฟลท์ JL33

เมนูอาหารในไฟลท์ JL33

เมนูอาหารในไฟลท์ JL33

ประมาณตีสามไทย ก็เริ่มเสิร์ฟอาหารเช้าครับ จิบน้ำส้มกันก่อน

ผมทานชุดอหารญี่ปุ่นเช่นเคย

มีจานหลักเป็นปลา ก็โอเคไม่ได้อร่อยมากครับ

พวกคำเล็กๆ นี่ทานเพลินดี

มีนัตโตะของโปรดผมเสิร์ฟด้วยครับ

ปิดมื้อด้วยกาแฟก่อนลง
โดยรวมก็โอเคครับ เวลาเปลี่ยนเครื่องกำลังดีไม่รีบมาก บริการดี อาหารขาไปสู้ขากลับไม่ได้ ส่วนที่นั่งผมรู้สึกชอบแบบใหม่มากกว่า คือ Shell Flat มันเริ่มดูเก่าๆ ขาไปยังใหม่หน่อย ส่วนขานี่เยินเลย ที่จริงมันก็นอนสบายดีครับ อาจจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ แต่ที่อ่านมาคิดว่า JAL จะทยอยเปลี่ยนที่นั่งเป็นแบบใหม่ทั้งหมดแล้ว
อีกเรื่องที่ไม่ค่อยถูกใจคือมันบินกลางคืนแล้วนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มเพราะไฟลท์มัน 5 ชั่วโมงกว่าๆ ก็เลยเพลียๆ ครับ
ข้อดีก็คือเรื่องราคาเพราะจะถูกหน่อย มีแต่อาหารเช้า ไม่ได้เสิร์ฟแอลกอฮอล์เยอะมาก
ส่วนเลาจน์ที่สุวรรณภูมิและ Haneda ดีทั้งคู่ครับ ที่สุววรรณภูมินี่เพิ่งรีโนเวทใหม่เอี่ยมเลยครับ (เดี๋ยวลงรูปเพิ่มอีกที)