สำหรับร้านนี้ The Reflexions นั้นผมรู้จักจากตอนที่หาข้อมูลร้านสเต็ก มีกระทู้ในเว็บไซต์ pantip.com แนะนำที่นี่ไว้ พอมาเปิดดู อ้าวมี Set Menu ด้วยแฮะ เป็น Modern French น่าสนใจ ก็เลยเปิดๆ ดูเพิ่มแล้วก็ตัดสินใจจองมาลองในช่วงเย็นวันธรรมดาครับ
ตัวร้านอยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรม The Athenee Hotel ครับ ขนาดห้องไม่ใหญ่ไม่เล็ก บรรยากาศดี สลัวๆ หน่อย เพดานโล่งสูงจนถึงชั้นสอง ด้านในมีบาร์ยาวขนานไปกับด้านข้างของห้องครับ ตัวครัวอยู่ด้านในสุด เป็นครัวเปิดเห็นเชฟและทีมงานปรุงอาหารอยู่ไกลๆ ส่วนด้านหน้าของห้องมีเปียโนตัวใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งช่วงที่ผมไปนั้นบรรเลงเพลงคริสมาสต์สลับกับเพลงฝรั่งเก่าๆ ไพเราะมากครับ
ในส่วนของอาหารนั้นปัจจุบันดูแลโดยเชฟ Roxanne Lange ผู้เคยฝึกปรือวิชาจากเชฟ Henk Savelberg (เจ้าของร้าน Savelberg) โดยมีรายการอาหารแบบเซ็ตเมนู 4&6 Course สำหรับเซ็ตเล็กและ 9&11 Course สำหรับเซ็ตใหญ่ หรือถ้าช่วงกลางวันก็จะมี Business Lunch Set ให้บริการครับ

ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 3 ครับ

ด้านหน้าห้องอาหาร The Reflextions

มีรูปของเชฟ Roxanne Lange ติดอยู่ด้านหน้าห้องอาหารครับ

บรรยากาศภายในร้านครับ เป็นห้องเพดานสูง ไฟสลัวๆ

ตัวบาร์ที่ยาวขนานไปกับห้อง

ด้านบนเป็นรูปขาวดำตกแต่งอยู่

ครัวอยู่ด้านในสุด

มีบรรเลงเปียโนให้ฟังระหว่างระประทานครับ

สั่งอาหารและเครื่องดื่มเสร็จก็มีแป้งกรอบๆ มาเสิร์ฟให้ทานเล่นครับ แบบแผ่นเป็น pistachio กรอบๆ แต่รสอ่อนๆ ส่วนด้านหลังแท่งๆ กรอบ เป็นรสเบคอนเค็มๆ กินแล้วนึกถึงเพรทซ์

จิ้มกับน้ำจิ้มรสพริกหยวกผสมมายองเนส

ต่อด้วยขนมปัง ก้อนแรกเป็นขนมปังไรซ์เบอรี่ อุ่นๆ ข้างในนุ่ม ข้างนอกกรอบหนึบ รสแบบธัญพืช อร่อยครับ

Amuse Bouche เมนูแรกเป็น ชีสนมแพะใส่กับบัลซามิกและวอลนัท ตัวแป้งบางกรอบ รสเปรี้ยวๆ เย็นๆ มีเผ็ดตอนท้ายนิดหน่อย

มื้อนี้ดื่มกบไวน์ขาวองุ่นพันธุ์ Sauvignon Blanc จาก New Zealand อร่อยครับ เปรี้ยว สดชื่น

เมนูต่อมาเป็น ทูน่าสดเนื้อหนึบๆ โรยหน้าด้วยงาดำและต้นหอมซอย ด้านล่างเป็นเยลลี่ที่ทำจาก คอนซูเม่ไก่ เสิร์ฟมาเย็น ๆ เข้าปากแล้วกรุบๆ รสเค็มเปรี้ยวมัน มีรสสาหร่ายนิดหน่อย

เมนูต่อมาเสิร์ฟมาในกล่องไม้แบบนี้ครับ

พอเปิดปุ๊บกจะมีควันลอยออกมา เป็นเนื้อปลาทูน่าเสิร์ฟมาบนแผ่นแป้งกรอบๆ ตัวปลาเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นควันชัดเจนครับ รสกลมกล่อม อร่อยครับ

เมนูแรกเป็นครีมปูกับน้ำแตงโม ใส่คาเวียร์ แต่ผมทานปูไม่ได้ครับ

เชฟก็เลยเปลี่ยนเป็นหอยนางรมสดใส่มาในบีทรูทที่หั่นเป็นแผ่นบาง ราดด้วยโยเกิร์ตและบัลซามิก ตัวหอยสดดีครับ บีทรูทเนื้อกรุบๆ ตัวซอสรสออกเปรี้ยวหวาน มีรสเหมือนถั่วๆ นิดนึง

ขนมปังก้อนที่สองมาเสิร์ฟ ก้อนนี้นุ่มอุ่น ขอบกรอบ รสละมุน เค็มกำลังดีครับ

เมนูต่อมาเป็นแฮม Iberico เสิร์ฟมาบนขนมปังแผ่นบางกรอบ ตัวแฮมกลิ่นหอม รสเค็ม มัน หนึบๆ

โดยทานคู่กับจานนี้เป็นสลัดมะเขือเทศเนื้อนุ่มๆ รสหลากหลาย ด้านข้างเป็นไอศครีมพริกหยวก รสเข็มข้นดีครับ ส่วนด้านล่างเป็นครีมมะเขือเทศ อร่อยมากครับจานนี้ พนักงานบอกว่าเป็นจานแนะนำใน TripAdvisor

จานต่อมาเป็นเมนูปลา Sea Bream เสิร์ฟมาหนึ่งชิ้นบนแป้งกรอบๆ เนื้อปลานุ่มเย็น มีรสเค็ม รสดิลล์ ด้านหลังเป็นสลัดมันฝรั่งรสเปรี้ยวหวาน มีรสเครื่องเทศอ่อนๆ แบบขมิ้นอะไรอย่างนี้ครับ

จานนี้เป็นลอบสเตอร์ ซึ่งผมทานไม่ได้เช่นเคย

เชฟเปลี่ยนเป็นปลาฮามาจิให้แทนครับ เนื้อนุ่มอร่อย โรยหน้าด้วยคาเวียร์ และใบมะกรูดเป็นเส้นๆ ในชิ้นจะมีเนื้อไก่ทีนุ่มแบบละลายแซกมา ทานกับหนังปลาทอดกรอบๆ และมูสเบคอนกับใบชิโสะ มีรสคื่นช่ายนิดๆ ส่วนที่เป็นหยดๆ คือ apple lime juice ครับ พนักงานมาแนะนำว่าเมนูใหม่ที่กำลังจะขายในช่วง festive

ต่อมาเมนูนี้เสิร์ฟมาในอ่างแก้วใสสวยงามเลยครับ เป็นปลาแซลมอนทานกับ Red Cabbage ตัวผักกรึ่บๆ มีรสดิลล์ ส่วนเนื้อแซลมอนนุ่มมัน มีกลิ่นควันๆ คือเนื้อสุกแต่ยังนุ่มครับ มีไข่แซลมอนเค็มมันเสิร์ฟมาคู่กันด้วย

เมนูปลาอีกจานครับเป็น Dover Sole หรือปลาตาเดียวครับ เนื้อปลาสุกหนึบๆ สดดีไม่คาวเลย เสิร์ฟมาพร้อมกับถั่วแระญี่ปุ่นและบรอคโคลี่ และก็แอสพารากัส แต่งด้วยเจลเลมอน

มีซอสรสเค็มๆ ให้ราดครับ ในซอสโรยด้วยต้นหอมซอยๆ

เมนูเนื้อลูกวัวเสิร์ฟมาในถ้วยเหล็กไซส์เล็กๆ มีสามชิ้นส่วนคือเทนเดอร์ลอย ลิ้น และสวีทเบรด เทนเดอร์ลอย์นุ่มเคี้ยวสนุก ส่วนลิ้นนุ่มเนื้อแน่นตรงขอบกรอบๆ สวีทแบรดทอดกรอบ มีนึกถึงปลาทอดเหมือนกัน รอบๆ เป็นเห็ดนุ่มๆ อาติโชค บีทรูทฝานเป็นแผ่นๆ มัสตาร์ด ลีค ซอสรสเปรี้ยวหวาน อร่อยครับเมนูนี้

จานสุดท้ายเป็นนกกระทา (Qauil) เนื้อนุ่ม อุ่น หนังเกรียมนิดๆ นุ่มมัน ตรงกลางเป็นตับเป็ดนุ่มขม ละลาย อีกชิ้นเป็นน่องทอดนุ่มหนังกรอบ รสจืดนิด ด้านล่างปาดมาด้วยซอสแบลคเคอแรนท์รสเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟพร้อมกับผัก ไรซ์แครกเกอร์กรอบๆ

จบเมนูอาหารคาวก็มีรถเข็นชีสมาครับ

ขนมปังทานแกล้มกับชีส

มีชีสทั้งหมด 4 ชนิดคือ Comte รสอ่อนนมละมุน เนื้อแข็ง, Livarot อันนี้กลิ่นแรงมาก สาบ, Chabichou รสเปรี้ยวเค็มเนื้อเนียนเฟิร์ม และ Mothais Gros เหลวๆ รสอ่อน สองอย่างแรกเป็นนมวัว สองอย่างหลังเป็นนมแพะครับ

ทานคู่กับลูกเกด มะเดื่อ วอลนัทและน้ำผึ้ง

ขนมหวานรายการแรกเป็น โยเกิร์ต คาราเมล Sweet Kiss Tea เอาไปใช้ความเย็นทำเป็นแข็งๆ ก่อนทานก็ตำในครกเล็กๆ ให้แตกครับ รสเบอรี่ๆ รสเปรี้ยวแบบโยเกิร์ตส้ม เย็น มีนมนิดๆ

ขนมจานที่สองเป็น Coffee parfait มีเชอเบทลูกแพรเสิร์ฟมาด้านบน ถั่วคาราเมล ข้างๆเป็นโฟมรสกาแฟ เย็นเปรี้ยวมินท์ ข้างๆอีกฝั่งเป็นลูกแพรชิ้นเล็กๆ นุ่มกรึ่บๆ

จานสุดท้ายของมื้อเป็น Chocolate Mousse สลับกับ ไวท์ชอคฯ และมินท์เป็นเลเยอร์เนื้อนุ่มเย็นเสิร์ฟมาคู่กับไอศครีมกล้วยเย็นๆ รสเหมือนกล้วยสุกๆ ครับ
วันที่ผมไปเป็นช่วงเย็นของวันธรรมดาครับ มีลูกค้าอยู่เพียง 2 โต๊ะ ช่วงแรกอาหารออกเร็วดี พอช่วงหลังๆ อาหารออกช้าลงไปนิดนึง อาจจะเป้นเพราะผมเปลี่ยนบางเมนูด้วย เลยทำให้ทีมงานในครัวอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นครับ โดยรวมสำรับที่นี่ประทับใจมากครับ พนักงานสุภาพและเป็นกันเอง บรรยากาศดี ดนตรีเพราะ อาหารอร่อยทุกเมนู รสชาติเข้มข้นถูกปากครับ แนะนำเลยครับร้านนี้
The Reflexions @ The Athenee Hotel ถนนวิทยุ
เบอร์ : 02 650 8800 ต่อ 4338
เปิด : 12.00-14.00, 18.00-22.30 ปิดวันจันทร์
เว็บไซต์
เพจ
foursquare

เมนูร้าน The Reflexions

เมนูร้าน The Reflexions

เมนูร้าน The Reflexions

เมนูร้าน The Reflexions

เมนูร้าน The Reflexions

เมนูร้าน The Reflexions

เมนูร้าน The Reflexions

เมนูร้าน The Reflexions