80/20 เป็นอีกร้านที่ผมได้ยินชื่อเสียงมานาน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้มาทานซักที พยายามโทรจองก็เต็มหรือไม่ทางร้านก็ปิด จนสุดท้ายมาได้โต๊ะเย็นวันอาทิตย์ก่อนครับ
สำหรับชื่อร้านนั้นมีที่มาจาก สัดส่วนของวัตถุดิบที่ทางร้านใช้ในการปรุงอาหารคือของไทย 80% (จากตลาดน้อยเป็นหลัก) ผสมกับของนอก 20% ครับ ตัวร้านอยู่บนถนนเจริญกรุง ไม่ไกลจากร้าน JUA ที่ผมไปวันก่อน ขนาดร้านค่อนข้างใหญ่ ตกแต่งแนวลุยๆ ลอฟต์ๆ บรรยากาศร้านสลัวหน่อย (ถ่ายรูปยากเลย ฮ่าๆ)
ตัวอาหารจะมีความผสมผสาน ดูเป็นไทยแต่ก็มีความเป็นอาหารต่างชาติ มีการใช้เทคนิคต่างๆ ทวิสต์ และดัดแปลง จัดวางมาเสิร์ฟอย่างสวยงาม โดยมีทั้ง A la carte และ Course ปกติ ศุกร์เสาร์อาทิตย์จะเสิร์ฟแต่คอร์ส เพื่อความชัวร์ต้องโทรสอบถามครับ เพราะบางวัน บางสัปดาห์อาจจะมีคอร์สพิเศษ
ด้านหน้าร้าน
เข้ามาก็จะเจอส่วนของครัว
บรรยากาศภายในร้าน
โหลหมักดองวัตถุดิบต่างๆ
บริเวณบาร์
เมนูคอกเทลและเบียร์
บรรยากาศภายในร้าน
บรรยากาศภายในร้าน
มื้อนี้ผมดื่มไวน์แดงครับ
เป็นไวน์ไทยแบรนด์ Gran Monte นั่นเอง ตัวที่ดื่มคือ Spring วินเทจ 2015 องุ่น Syrah และ Cabernet
พี่สาวไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำสัปปะรสแทน
อาหารออกเร็วดีครับ จานแรกคือ Buffalo Tartare เป็นเนื้อควายดิบสับและปรุงรส ที่เห็นดำๆ นี่คือเห็ดและหอมแดง มีความกรุบๆ แบบพวก breadcrumbs รสออกหวาน ตัวเนื้อหนึบๆ รสเปรี้ยว เผ็ด ซ่าๆ ในจานนี้ยังมีแม่เป้ง(มดแดง)และไข่มดแดง โรยใส่มาด้วยครับ
‘Wild Mushroom Soup’ มีกลิ่นและรสคล้ายแกงอ่อมจากตัวผักชีลาว น้ำซุปมีเบสเป็นปลา กลมกล่อม ชิ้นเห็นกรุบๆ มีบางจุดเปรี้ยวแบบหมักๆ สอบถามน้องพนักงานได้ความว่าเป็นเห็ดป่าชื่อ เห็ดผึ้ง
‘Chicken Rendang Curry’ แกงกระหรี่ไก่แบบอินโดนีเซีย กลิ่นหอมเครื่องเทศมากครับ อารมณ์คล้ายๆ พวกมัสมั่น เนื้อไก่นุ่มแต่เค็มปื้ดเลย ต้องทานกับโยเกิร์ตรสเปรี้ยวที่เสิร์ฟมาด้วยกัน เนื้อจะเนียนๆ คล้ายพวกครีมชีส อร่อยครับ ทานกับข้าวเวิร์คเลย
‘Beef Platter’ เป็นจานเนื้อเสิร์ฟพร้อมผักดอง ข้าวเหนียวแล้วก็แจ่วครับ เนื้อที่เสิร์ฟมีส่วน Tenderloin นุ่มๆ ควันๆ อีกส่วนเป็น Brisket (เสือร้องไห้) รมควัน เนื้อหนึบหน่อยรสออกเปรี้ยว ตัวน้ำจิ้มแจ่วรสมะขามเยอะ ไม่เผ็ดมาก หวาน ทานอร่อย ผักดองที่มาด้วยกันเป็นดอกกระเจียวดอง เปรี้ยวจี๊ดแล้วก็มีความแอลกอฮอลิคสูงมากครับ ในถาดยังมีผักเผ็ด puree ด้วย จะเปรี้ยวๆ ทานตัดเลี่ยนรสคล้ายๆ แตงดองของฝรั่ง
ทานไปจนครบ ปรากฎยังไม่ค่อยอิ่มเลยสั่งมาเพิ่ม จานนี้เป็น ‘Chicken Live Mousse’ รสเปรี้ยวเค็ม ตามด้วยรสเผ็ดค้าง และหวาน สัมผัสมีความนุ่ม ดึ๋ง กรุบๆ crunchy ผสมกับรสถั่วและชีสไหม้ เป็นจานที่รู้สึกซับซ้อนดี อร่อยครับ ชอบมากจานนี้
อาหารคาวจานสุดท้าย ‘Seared Duck Breast’ เป็นอกเป็ดชิ้นหนา เนื้อนุ่ม ส่วนหนังออกควันรสเค็มหน่อย ทานแล้วนึกถึงอกเป็ดรมควันของเยาวราช รสซอสหวาน เค็ม ข้างล่างเป็นเผือกและมันฝรั่งหั่นเต๋านุ่มๆ อร่อยเช่นกันครับ
ปิดมื้อด้วย ‘Coconut’ เป็นไอศครีมกะทิใส่โมจิ แล้วโรยหน้าด้วยมะพร้าวคั่วหวานๆ ล้างปากดีมากครับ มีความครีมมี มีมะพร้าวแห้งๆ รสหวานเค็มกำลังดี มีความนุ่มด้วย กรุบด้วย มีรสแบบมะพร้าวในขนมใส่ไส้ เมนูนี้ชอบมากๆ ครับ อร่อยมาก
ก่อนกลับล้างปากด้วยคอกเทล แก้วนี้เป็นตัวพิเศษประจำวัน เป็น Passion fruit ใส่รัมและน้ำผึ้ง แอกอฮอล์แรงเลยครับ รสขมผสมกับรสเปรี้ยว สดชื่นดีครับ
อีกแก้วเป็นตัวปกติ ชื่อ Bee on a tree เป็น bourbon แล้วก็ wild honey แก้วนี้หวานครับ ดื่มง่ายลื่นๆ แต่แอบแรงเช่นกัน
โต๊ะเราสั่งอาหารมาสามสี่เมนู ขนาดแต่ละจานไม่ใหญ่มาก ก็เลยสั่งมาลองเพิ่มอีกนิดหน่อย สรุปว่าทานไปรวมๆ 6 จาน กับอีก 1 เมนูของหวาน ประทับใจทุกจานเลยครับ คือมันกลมกล่อม บาลานซ์ดี จานที่เผ็ดก็เผ็ดนิดๆ มีรสอื่นมาตัด เข้ากันดีมาก รสนัวๆ รสหมัก อะไรอย่างนี้ ส่วนขนมนี่อร่อย หวานมันเค็มล้างปากดีมาก
เป็นร้านที่ชอบมากครับ คิดว่าจะกลับมาซ้ำอีกในเร็ววัน แต่เรื่องเศร้าก็คือทางร้านจะปิดรีโนเวทถึงราวๆ สิ้นปี น่าจะเปิดประมาณเดือนพฤศจิกายนเลยครับถ้าจะมาทานแนะนำว่าต้องโทรจองครับ ส่วนที่จอดรถให้จอดที่ลานหน้าโรงแรมรอยัลออคิทเชอราตัน ในซอยเจริญกรุง 30 ครับ
80/20 ถนนเจริญกรุง
เบอร์โทร : 099 118 2200
เปิด : 18.00-24.00 ปิดวันอังคาร
เพจ
foursquare
เมนูร้าน 80/20
เมนูร้าน 80/20
เมนูร้าน 80/20
เมนูร้าน 80/20