Browsing Tag

น้ำพุ

ท่องเที่ยว

บ่อน้ำพุร้อน Shiraike, Chinoike และ Tatsumaki – Kyushu 2014 ตอนที่ 10.3

1,308 views |

เดินชมไปทั้งหมด 5 บ่อ ( Oniyama, Kamado และ Yama, Umi, Oniishibozu ) ได้เวลาพักทานข้าวก่อนครับ ต้วร้านอยู่เลยจากบ่อ Yama ขึ้นมานิดหน่อย เมนูไม่เยอะ แต่อร่อยดีครับ เป็น จัมปงกับ ดังโงะ

อิ่มแล้วเดินต่อไปยังบ่อ Shiraike บ่อนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่น้ำจะเป็นสีขาวเหมือนน้ำนม รอบๆบ่อมีตู้ปลาแสดงอยู่ด้วยครับ เสร็จจากบ่อนี้ ต้องนั่งบัสต่อไปเพราะว่า สองบ่อที่เหลือนั้นอยู่ไกล เดินกันเหนื่อยแน่นอน ขึ้นรถเอาสะดวกกว่าครับ

รถจอดที่หน้าบ่อ Chinoike บ่อนี้จะมีสีแดงเลยถูกเรียกว่าบ่อเลือด ที่มีสีแดงก็เนื่องจากดินโคลนบริเวณนี้เป็นสีแดงครับ จากนั้นก็เดินต่อไปยังบ่อสุดท้ายของวันนี้ชื่อว่า Tatsumaki ที่นี่ไม่เชิงเป็นบ่อแต่เป็นน้ำพุร้อนพุ่งๆ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Geyser เหมือนกับที่ New Zealand ที่ผมมีโอกาสไปเมื่อปีก่อนครับ (Lady Knox Geyser) ความเจ๋งของที่นี่คือไม่ต้องใส่อะไรลงไปเร่งให้มันพุ่ง มันจะพุ่งเองเป็นเวลาทุกๆวันครับ

Continue Reading

ท่องเที่ยว

บ่อน้ำพุร้อน Yama, Umi และ Oniishibozu – Kyushu 2014 ตอนที่ 10.2

1,538 views |

ต่อจาก 2 บ่อแรก Oniyama และ Kamado ก็มาต่อบ่อที่ 3 ชื่อ Yama Jigoku บ่อนี้มีจุดเด่นคือมีสัตว์ชนิดต่างๆ เลี้ยงเอาไว้ให้ชมครับ จริงๆ ก็ ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ เพราะสัตว์ก็มีนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้มีเยอะอะไรมากมาย

บ่อต่อมาบ่อที่ 4 ชื่อว่า Umi บ่อนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร มีควันออกมาตลอดเรื่อยๆ แล้วด้านในก็จะมีเรือนกระจกที่นำความร้อน มาควบคุมอุณหภูมิภายใน ให้สามารปลูกพืชเมืองร้อนอย่าง บัว กล้วย กล้วยไม้ และ กระบองเพชร ได้ เราคนไทยมาจากเมืองร้อนก็ไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่ หะหะ บ้านเราเยอะแยะ

บ่อที่ 5 ชื่อ Oniishibozu บ่อนี้ตัวบ่อจะเป็นสีเทาๆ เดือดปุดๆ อยู่เรื่อยๆ ครับ ภายในมีอยู่ประมาณ 3-4 บ่อ ขนาดต่างๆ กันไป รอบๆ บ่อนี้มีที่แช่เท้าด้วยเช่นกัน โดยมีพวกพืชตระกูลส้ม ลอยๆ ในน้ำให้มีกลิ่นหอมครับ

Continue Reading

ท่องเที่ยว

บ่อน้ำพุร้อน Oniyama และ Kamado – Kyushu 2014 ตอนที่ 10.1

2,196 views |

เริ่มโปรแกรมวันที่ 2 ในเมือง Beppu ครับ มื้อเช้าทานที่โรงแรม เสร็จแล้วก็เริ่มตะลุยเมืองกัน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของ Beppu ก็คือบ่อน้ำพุร้อนที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองนั่นเองครับ

โดยมีทั้งหมด 8 บ่อ แต่ละบ่อก็จะมีชื่อแตกต่างกัน แล้วก็มีจุดเด่นแตกต่างกันครับ สำหรับบ่อน้ำพุร้อนนั้นภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า Jigoku(地獄) แปลเป็นไทยว่านรก บางบ่ออยู่ใกล้กันเดินเท้าได้ บางบ่อที่ไกลออกไปต้องนั่งบัสหรือแทกซี่ไปครับ สำหรับบัสนั้นไม่ลำบากเพราะว่าจะมีป้ายอยู่ใกล้ๆ ด้านหน้าของทุกๆ บ่อเลย

บ่อแรกที่ไปคือ Oniyama Jigoku (鬼山地獄) จุดเด่นของบ่อนี้ก็คือมีจระเข้เลี้ยงอยู่ครับ ส่วนบ่อต่อมาก็คือ Kamado Jigoku (かまど地獄) แปลว่า เตาอบที่ชื่อนี้เพราะเป็นบ่อที่ใช้ในการปรุงอาหารมาช้านานครับ ซึ่งที่นี่ก็เลยจะมีของกินขายด้วย ด้านในของที่นี่ก็ยังมีบ่อสีแปลกๆอย่าง สีฟ้าและสีแดงอยู่ สีสดดีครับ

Continue Reading

ท่องเที่ยว

Wai-O-Tapu Thermal Wonderland – New Zealand 2014 ตอนที่ 3.3

2,631 views |

หลังจากเติมพลังที่ cafe เสร็จเราก็เดินทางเข้าสู่ส่วนหลักของ Wai-O-Tapu Thermal Wonderland ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ประมาณ 18 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว โดยสามารถเลิกเดินได้ 3 เส้นทาง ถ้ามีเวลามากก็เดินยาวๆ ถ้าเวลาน้อยก็เลือกแบบรวบรัด สั้นที่สุด

ในนี้จะมีพวกบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ๆ มีส่วนที่เป็นบ่อโคลน มีส่วนน้ำตกบ้างนิดหน่อย อากาศวันที่ไปตอนแรกกำลังดีพอเที่ยงๆบ่ายๆ แดดเริ่มแรง ทำเอาร้อนเลย

กรุปขอเราเลือกเดินเกือบๆ จะเป็นรอบใหญ่ที่สุด มีตอนช่วงท้ายๆที่ไม่ไหวแล้ว ต้องเดินตัดกลับมาก่อนไม่ได้เดินไปจนสุดถึงน้ำตก ในตารางเขียนว่าเดินประมาณ 75 นาที แต่ตอนเราไปนี่ 2 ชั่วโมงกว่ายังไม่ทั่วดีเลย ไม่ไหวหมดแรง

Continue Reading

ท่องเที่ยว

Lady Knox Geyser, Rotorua – New Zealand 2014 ตอนที่ 3.1

2,485 views |

เริ่มต้นวันที่ 3 ของทริป เช้านี้เรามี 2 จุดที่ต้องเที่ยวในเมืองโรโตรัว ก่อนออกเดินทางไป Lake Taupo โดย 2 ที่นี้อยู่ในบริเวณเดียวกัน ไม่ไกลกันมาก แต่เดินน่าจะไม่ไหวขับรถเอาจะสะดวกกว่า จุดที่เราต้องไป ก็คือ 1. Wai-O-Tapu Thermal Wonderland และ 2.Lady Knox Geyser ซึ่งคือส่วนหนึ่งของ Wai-O-Tapu นั่นเอง

Wai-O-Tapu นี่จะอยู่ทางทิศใต้ วิ่งออกมาจาก Rotorua ประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาที ทำให้ต้องออกเดินทางจากในเมืองเช้าหน่อยเพราะต้องมาซื้อตั๋วจุดนึงแล้วขับรถมาดูอีกจุดนึง ซึ่งโชว์จะมีแค่วันละรอบ เวลา 10.15 โชว์ที่จะมาดูก็คือน้ำพุ Lady Knox Geyser ซึ่งมันจะไม่ได้พุ่งอยู่เองตลอดทั้งวัน ต้องมีการใช้สารเคมีช่วย (surfactant – สารลดแรงตึงผิว มีอยู่ใรพวก แชมพู/สบู่)

Geyser แปลว่าน้ำพุร้อนที่พุ่งจากใต้ดิน ส่วนชื่อ Lady Knox นั้นมาจาก Lady Constance Knox ลูกสาวคนที่ 2 ของ Uchter Knox ผู้ปกครองคนที่ 15 ของ New Zealand สำหรับความสูงของน้ำพุนั้นจะพุ่งถึง 15-20 เมตร โดยกว่าจะหยุดก็เป็นชั่วโมง รอบๆตัวน้ำพุที่เป็นโคนขาวๆ นั่นคือ Silica

การค้นพบ Lady Knox Geyser นั้นเกิดในช่วงปี 1901 บริเวณ Wai-O-Tapu นี่เป็นส่วนหนึ่งของคุก ที่นี่ก็ให้นักโทษที่ประพฤติตัวดีได้ออกมานอกบริเวณเรือนจำบ้าง ก็มีกลุ่มนักโทษไปซักผ้าด้วยน้ำร้อน พอสบู่ไปโดนก็เลยเจอน้ำพุ่งออกมา

เนื่องจากเป็นการค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 20 แล้ว จึงทำให้ที่นี่ไม่มีชื่อเป็นภาษาเมารีเหมือนแหล่งพลังงานใต้พิภพอื่นๆของ New Zealand

(ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia)

Continue Reading

WP Twitter Auto Publish Powered By : XYZScripts.com